posttoday

Wi-Fi สาธารณะใครว่าปลอดภัย?

17 กุมภาพันธ์ 2560

Wi-Fi สาธารณะนั้นไม่ปลอดภัยเท่าไหร่นักถ้าหากคุณต้องทำการซื้อขายออนไลน์

โดย...welivesecurity

เป็นเรื่องที่หลายคนรู้หลายคนไม่รู้ว่า Wi-Fi สาธารณะนั้นไม่ปลอดภัยเท่าไหร่นักถ้าหากคุณต้องทำการซื้อขายออนไลน์เราแนะนำให้คุณหาเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่คิดว่าปลอดภัยมากพอที่จะทำ

ทาง ESET จึงรวบรวมวิธีเลือกเครือข่ายWifiที่ปลอดภัยมาให้เป็นแนวทาง

อ่านชื่อให้แน่ใจว่า Free Wi-Fi ที่เห็นเป็นของจริง

ก่อนที่คุณเลือกเครือข่ายอินเตอร์เน็ตอย่างร้านอาหารตรวจสอบชื่อWifiของร้านให้แน่ใจก่อนส่วนมากมักใช้เป็นชื่อร้านหรือสถานที่ใกล้เคียงเพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าจะมีแฮกเกอร์ออกมาสร้างเครือข่ายปลอมให้เราเข้าใช้หรือเปล่า

โดยเฉพาะชื่อ “Free Wi-Fi” ห้วนๆเพราะคุณอาจจะหลงไปอยู่ในเครือข่ายที่ต้องการให้สมัครสมาชิกอะไรสักอย่างและอาจเผลอกรอกข้อมู,ส่วนตัวให้ับแฮกเกอร์ไป

Mark James ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของ ESET บอกว่า “ถ้าหากคุณไม่ได้อยู่ในสถานที่ๆมี Free-Wifiแน่นอนอย่างร้าน McDonalds หรือ Starbucks ให้ถามกับพนักงานในร้านก่อนและอย่าเลือกอันแรกที่เห็นเสมอ”

Wi-Fi สาธารณะใครว่าปลอดภัย?

เช็คอีเมล์และเล่น Facebook ด้วยคอมพิวเตอร์ปลอดภัยกว่า

หลังจากที่คุณเลือกเครือข่ายที่ปลอดภัยได้แล้วถ้าหากคุณมีภารกิจต้องเช็คอีเมล์เราแนะนำให้คุณใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ปลอดภัยกว่าเพราะคุณสามารถสังเกตสัญลักษณ์รูปกุญแจบนแถบ Address Bar หรือตัวอักษรนำหน้าลิงก์อย่าง HTTPS ได้

เนื่องจากแฮกเกอร์มักดักรอโอกาสที่จะมีคนพิมพ์รหัสผ่านอีเมล์หรือโซเชียลมีเดีย

Mark James ยกตัวอย่างของตัวเองว่า “ส่วนตัวผมมักจะไม่ทำกิจกรรมที่ต้องกรอกรหัสในตอนใช้ Wi-Fi สาธารณะแต่ถ้าเป็นบนมือถือที่ล็อคอินอัตโนมัติก็โอเค”

สมาร์ทโฟนมีการป้องกันเครือข่ายสาธารณะน้อยกว่าอุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่อง Mac อย่างเบราว์เซอร์ใน PC ก็ปลอดภัยกว่า

“การใช้แอปพลิเคชันอีเมล์บนมือถือไม่ปลอดภัยเท่ากับบนเว็บไซต์ที่เป็น HTTPS” คุณ Mark James บอก

เพราะ “สำหรับ E-mail ระบบ HTTPS สามารถรักษาความปลอดภัยได้ดีกว่า pop3”

Wi-Fi สาธารณะใครว่าปลอดภัย?

อะไรไม่ควรส่งระหว่างที่ใช้ Wi-Fi สาธารณะ

Wi-Fi สาธารณะก็เหมือนกับแม่น้ำสายหนึ่งที่มีแฮกเกอร์กำลังรอดักข้อมูลที่กำลังไหลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

เพราะฉะนั้นอะไรที่เกี่ยวกับการเงินหรือองค์กรธุรกิจห้ามเด็ดขาดอย่างรหัสบัตรต่างๆและไม่ซื้อของออนไลน์หรือเข้าใช้เว็บไซต์ธนาคาร

ถ้าหากมีความจำเป็นต้องใช้เร่งด่วนให้ใช้ VPN หรือ (Virtual Private Network) แทนจะปลอดภัยที่สุด

Forget the Network ทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ

ข้อนี้สำหรับนักท่องเที่ยวเหตุผลก็คือ 1. คุณคงไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวในสถานที่เดิมๆบ่อยมากนัก 2. ป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมต่ออัตโนมัติเพราะสมาร์ทโฟนสามารถส่งผ่านข้อมูลจำนวนมากได้ทันทีเพียงคุณเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแม้คุณไม่ได้ใช้มันอยู่

อีกหนึ่งเหตุผลก็คือในกรณีที่เครือข่ายนั้นเป็นเครือข่ายสาธารณะที่ไม่มีรหัสผ่านแล้วถ้าเกิดเหตุการณ์ที่เจอเครือข่ายใหม่แต่กลับใช้ชื่อเดียวกันสมาร์ทโฟนอัจฉริยะของคุณก็จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายใหม่นั้นทันทีโดยไม่ถามคุณสักคำ

*********************

ที่มา http://www.welivesecurity.com/2014/11/14/public-wi-fi-hotspots-know-risks/

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ https://blog.eset.co.th/