สตาร์ทอัพไทยสดใส สร้างมูลค่าเพิ่มเวทีโลก

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

ประกาศผลแล้วสำหรับโครงการ “ดีแทค เอ็คเซเลเรท” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสตาร์ทอัพหน้าใหม่ให้มีโอกาสสร้างธุรกิจไปสู่ตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยผู้ชนะเลิศ 2 ทีมที่จะมีโอกาสไปนำเสนอแผนงานต่อนักลงทุน (วีซี) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และนอร์เวย์ ได้แก่ ทีม SKOOTAR และทีม GizTix และรางวัลพิเศษในปีนี้เพิ่มเติมคือ Tech4Farm ที่เห็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจต่อยอดไปสู่ความสำเร็จ

แอนดริว กวาลเซท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Corporate Strategy and Business Innovation บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยผลักดันสู่วิสัยทัศน์ “Internet for All” ซึ่งได้รับความสนใจจากเหล่าสตาร์ทอัพหน้าใหม่และเอสเอ็มอีในหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีแนวคิดจะนำเทคโนโลยีโมบายอินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้ใช้บริการ

สมโภชน์ จันทรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจและ ดีแทค แอ็คเซเลเรท บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น กล่าวว่า จากนโยบายประเทศไทยตั้งเป้าที่จะสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ภาครัฐและภาคเอกชนต้องช่วยกันสร้างระบบนิเวศที่ช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรม

ทั้งนี้ ดีแทคขอเป็นส่วนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยยกระดับและสร้างเกณฑ์มาตรฐานสำหรับสตาร์ทอัพไทยเพื่อสนับสนุนให้เกิดเศรษฐกิจดิจิทัล โดยตั้งเป้าที่จะช่วยผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้สามารถขยายตลาดไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดโลก โดยคาดว่าจะระดมทุนให้กับทีมที่เข้าโครงการให้ได้รวมกันทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5 เท่า จากปัจจุบันภายใน 2-3 ปีข้างหน้า

ขณะที่สตาร์ทอัพไทยสายเลือดใหม่ไฟแรงทุกคนต่างมีความฝันและต้องการโอกาสที่จะเปลี่ยนโลกเช่นเดียวกับบริษัทรายใหญ่ในปัจจุบันหลายราย โดย 3 ปีที่ผ่านมา 11 ทีม ที่ร่วมโครงการสามารถระดมทุนได้รวมกันทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท และสำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 6 ทีม ล้วนมีผู้สนใจเข้ามาติดต่อร่วมทุนแล้ว ซึ่งจะประกาศความคืบหน้าเป็นระยะต่อไป ขณะที่ดีแทคเองก็พร้อมสนับสนุนในการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เงินลงทุนมูลค่ารวมกว่า 50 ล้านบาท/ปี

สมโภชน์ กล่าวว่า บริษัทได้เปิดโอกาสให้สตาร์อัพไทยต่อยอดเข้าถึงลูกค้าของดีแทคที่มีจำนวนกว่า 30 ล้านราย รวมถึงฐานลูกค้าของเทเลนอร์ใน 13 ประเทศทั่วโลก ที่มีลูกค้ากว่า 200 ล้านราย

กมลพฤทธิ์ ชุมพล ผู้ร่วมก่อตั้ง SKOOTAR กล่าวว่า จากการพัฒนาธุรกิจบริการเรียกเมสเซนเจอร์ ส่งเอกสาร ภายหลังการเข้าร่วมโครงการกับดีแทค ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจเพิ่มขึ้นจากหลักแสนบาทภายในระยะเวลาเพียง 3-4 เดือน เป็นหลักล้านบาทภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนั้น ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง โดยมองว่าจะมีรายได้ขยายตัวเป็น 50-60% อย่างต่อเนื่องจากการขยายธุรกิจสู่เขตพื้นที่ต่างจังหวัด จากปัจจุบันที่มีความครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ พร้อมเล็งขยายตลาดในอาเซียน

การพัฒนาสตาร์ทอัพในประเทศไทยถึงวันนี้เติบโตขึ้นทุกปี ประกอบกับภาครัฐเริ่มให้ความสำคัญและออกนโยบายสนับสนุน ทำให้ในอนาคตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศไทยอาจต้องพึ่งพาสตาร์ทอัพเหล่านี้ก็เป็นได้