posttoday

คุณแม่ยุคใหม่พึ่งเน็ต "เฟซบุ๊ก"แรงแซงทุกสื่อ

05 สิงหาคม 2558

การศึกษาชิ้นนี้สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมและแนวโน้มที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในกลุ่มคุณแม่

โดย...จะเรียม สำรวจ

หลังจากเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของคนเรามากขึ้น นอกจากจะมีประโยชน์กับคนทั่วไปแล้ว ยังให้ประโยชน์กับกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่อีกด้วย เพราะนอกจากจะใช้เป็นเครื่องมือในการหาข้อมูลข่าวสารเพื่อมาเลี้ยงดูลูกน้อยแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการระบายความเครียดจากการเลี้ยงลูก ซึ่งคุณแม่กับคุณแม่เท่านั้นที่เข้าใจ

จากผลการศึกษาพฤติกรรมการเสพสื่อของคุณแม่เอเชียยุคใหม่ประจำปี 2558 ของเว็บไซต์ theAsianparent.com เว็บไซต์ครอบครัวชื่อดังโดยบริษัท ทิคเคิลด์ มีเดีย เผยว่า 86% ของคุณแม่มือใหม่ชาวไทย หันพึ่งอินเทอร์เน็ตในการเลี้ยงลูก เนื่องจากคุณแม่ส่วนใหญ่ยังคงทำงานควบคู่ไปกับการเลี้ยงลูก จึงต้องการอุปกรณ์ทุ่นแรงในการหาข้อมูล

นอกจากนี้ ยังพบว่าสำหรับคุณแม่ยุคนี้ อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลในการตัดสินใจ และมีบทบาทในชีวิตประจำวันแซงหน้าสื่อประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี นิตยสาร หนังสือพิมพ์ หรือวิทยุ

ณัฐธนธร ฟอร์ด ผู้จัดการประจำประเทศไทยของเว็บไซต์ theAsianparent.com บริษัท ทิคเคิลด์ มีเดีย กล่าวว่า จากผลการศึกษาแนวโน้มของพฤติกรรมของคุณแม่พบสิ่งที่น่าสนใจ 5 ประเด็นหลัก คือ 82% ของคุณแม่ชาวไทยชอบท่องโลกอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตมากขึ้น มีเพียง 12% เท่านั้นที่ยังเล่นอินเทอร์เน็ตด้วยคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

ขณะเดียวกัน ยังพบว่า 90% ของคุณแม่ยุคใหม่ มีสิทธิขาดในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ภายในครอบครัว เนื่องจากแม่ยุคใหม่จะมีข้อมูลหลายด้านมารองรับ ขณะที่สื่อโซเชียลมีเดียที่ครองใจคุณแม่ยุคใหม่มากที่สุด คือ เฟซบุ๊ก โดยอัตราเฉลี่ย 99% ของผู้ตอบแบบสอบถามต่างก็มีบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังชอบอัพโหลดรูปลูกและครอบครัว รวมไปถึงการหาข้อมูลต่างๆ

หลังจากได้ข้อมูลเบื้องต้นจากสื่อโซเชียลดังกล่าว คุณแม่ยุคใหม่จะใช้สื่อเว็บไซต์หรือคลิปวิดีโอในการหาข้อมูลที่ต้องการต่อมา โดยเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่ คือ ยูทูบ เห็นได้จากผลการศึกษาที่พบว่ามีคุณแม่เข้าใช้เว็บไซต์นี้มากถึง 57%

นอกจากจะหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์แล้ว 55% คุณแม่ชาวไทยยังมีการติดต่อสื่อสารกับคุณแม่อื่นๆ ผ่านโลกออนไลน์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยสื่อโซเชียล 5 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่ของไทย คือ ไลน์ 98% ตามด้วย เมสเซจเฟซบุ๊ก 87% วอตส์แอพ 10% ไอแมสเสจ 7% และวีแชท 5%

ผลการศึกษายังระบุว่า 86% นิยมหาข้อมูลต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ตหลังคลอดบุตรกันมากขึ้น ส่งผลให้การบริโภคสื่อดั้งเดิมชนิดต่างๆ เช่น ทีวี ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 33% ขณะที่นิตยสารปรับตัวลดลง 51% เนื่องจากต้องการหาเทคนิคในการเลี้ยงลูก

จากการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้คุณแม่ยุคใหม่ใช้เวลาทำงานผ่านอินเทอร์เน็ตมากกว่า 6 ชั่วโมง อยู่ที่ 12% อยู่ที่ประมาณ 4-6 ชั่วโมง 22% อยู่ที่ 1-3 ชั่วโมง 34% และต่ำกว่า 1 ชั่วโมง อยู่ที่ 32%

แนวโน้มที่เกิดขึ้นดังกล่าว นักการตลาดที่ต้องการจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบริโภคกลุ่มนี้ ควรมีการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และจากข้อมูลที่ทำการศึกษามาน่าจะช่วยให้นักการตลาดมองเห็นโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคุณแม่ยุคใหม่ ซึ่งสื่อที่น่าจะเข้าถึงกลุ่มแม่ยุคใหม่ คือ สื่อออนไลน์ ส่วนช่วงเวลาที่น่าจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคุณแม่ยุคใหม่ได้ดีที่สุด คือ ช่วงหลังเวลา 21.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ได้พาลูกเข้านอนเรียบร้อยแล้ว

การศึกษาชิ้นนี้สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมและแนวโน้มที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในกลุ่มคุณแม่ที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพล ซึ่งหลังจากข้อมูลชุดนี้ได้เผยแพร่ออกไป เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักการตลาด ผู้ผลิตสินค้าและบริการ รวมไปถึงกลุ่มเอเยนซี่ โดยเฉพาะในเรื่องของการเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคในกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่

หลังจากทราบถึงพฤติกรรมในเบื้องต้นแล้ว หากศึกษาต่อไป เชื่อว่านักการตลาดน่าจะพัฒนาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่ได้ไม่ยาก เพราะนอกจากจะขายสินค้าในกลุ่มเด็กและครอบครัวได้แล้ว ยังสามารถขายสินค้าที่กลุ่มคุณแม่มีความสนใจได้อีกด้วย