posttoday

เข้าใจเสียใหม่

13 สิงหาคม 2560

เชื่อไหมทุกวันนี้ชาวพุทธจำนวนไม่น้อยยังไม่เข้าใจเรื่องของสังฆทานอย่างถูกต้อง

โดย...สธน เปลี่ยนจันทรสิริตระกูล

เชื่อไหมทุกวันนี้ชาวพุทธจำนวนไม่น้อยยังไม่เข้าใจเรื่องของสังฆทานอย่างถูกต้อง

บางคนแค่เห็นถังเหลือง ซึ่งข้างในบรรจุของกินของใช้ เช่น ข้าวสาร สบู่ ยาสีฟัน ปลากระป๋อง ไม้จิ้มฟัน ผงซักฟอก ทิชชู่ อะไรต่อมิอะไรก็เรียกว่า “ถังสังฆทาน” กันแล้ว เรียกกันจนติดปากทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะนำไปถวายใคร

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.อ.ทองย้อย แสงสินชัย อดีตผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “คนไทยเราเข้าใจเรื่องสังฆทานผิดเพี้ยนไปกันใหญ่”

ปัจจุบัน “ถังเหลือง” เป็นตัวอย่างของความเข้าใจในสังฆทานที่ผิดเพี้ยนของชาวพุทธหลายต่อหลายคน เช่น เข้าใจว่าการถวายสังฆทานต้องมีถังเหลือง ถ้าไม่มีถังเหลืองไม่เป็นสังฆทาน หรือเอาถังเหลืองไปถวายพระก็เป็นสังฆทานทันที หรือขนาดเจาะจงถวายรูปนั้นรูปนี้ก็บอกว่าเป็นสังฆทาน

ความเข้าใจอย่างนี้แหละ ที่อาจารย์ทองย้อยบอกว่าเป็นความเข้าใจสังฆทานที่ผิดเพี้ยน

ท่านยังบอกอีกว่า ที่หนักกว่านั้นวัดต่างๆ ได้จัดสถานที่สำหรับถวายสังฆทานเป็นกิจจะลักษณะ จัดชุดสังฆทานไว้บริการพร้อม แต่พระไม่ได้ช่วยกันให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ชาวพุทธเลย ว่าการถวายสังฆทานคืออะไร คงปล่อยให้คนที่ไม่เข้าใจยังคงเข้าใจผิดอยู่อย่างนั้น

“เวลานี้การถวายสังฆทานกำลังเพี้ยนไปอีกขั้น นั่นคือพระเป็นผู้กล่าวนำถวาย โดยอ้างว่าผู้ถวายกล่าวถวายเองไม่เป็น ผมว่าอีกไม่เกิน 50 ปี การถวายสังฆทานทุกแห่งในโลกพระจะเป็นผู้กล่าวนำถวาย ไม่เชื่อคอยดูละกัน” น.อ.ทองย้อย ชี้ให้เห็น

ยุคนี้ยุคดิจิทัลเทคโนโลยีอะไรๆ ก็ก้าวหน้าจนบางทีเราก็ตามไม่ทัน ฉะนั้นชาวพุทธก็ต้องก้าวหน้าด้วย ก้าวหน้าในปัญญา คือ ใช้ปัญญาให้มาก ไม่ใช่เห็นคนอื่นทำอะไรก็ทำตามหมด ถูกหรือไม่ถูกไม่รู้

สังฆทาน หมายถึง การถวายแก่สงฆ์ หรือพระทั้งคณะโดยต้องไม่เจาะจงที่พระรูปใดรูปหนึ่งด้วย (สงฆ์ในที่นี้แปลว่าหมู่ คือ พระหมู่มาก มิได้แปลว่าพระภิกษุอย่างที่มักเข้าใจกัน) ยกตัวอย่าง นางวิสาขาถวายภัตตาหารแก่ภิกษุสงฆ์ (หมู่พระ) จำนวน 500 รูป มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน นี้เรียกว่า “สังฆทาน” แต่ถ้าถวายเจาะจงพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวไม่เรียกสังฆทาน แต่เรียก “ปาฏิบุคลิกทาน” (ถวายเป็นส่วนบุคคล)

สังฆทานเป็นทานที่มีอานิสงส์มาก แล้วพระพุทธเจ้าทรงส่งเสริมสังฆทานมากกว่าปาฏิบุคลิกทาน โดยครั้งหนึ่งพระนางมหาปชาบดีโคตมีนำผ้าไตรที่ทรงตัดเย็บเองมาถวายแต่พระองค์ ทรงแนะนำให้ไปถวายแก่สงฆ์ พร้อมตรัสว่า เมื่อถวายแก่สงฆ์แล้วทั้งพระองค์และสงฆ์จักเป็นอันได้รับการบูชานั้น

หลักการของสังฆทาน ก็คือ ถวายแก่สงฆ์หรือส่วนรวมเท่านั้น ไม่ถวายเป็นส่วนตัวหรือเจาะจงให้รูปใดรูปหนึ่ง เพราะฉะนั้นไม่ว่าของถวายนั้นจะเป็นถังเหลืองหรืออะไรก็ตาม หากถวายแก่สงฆ์หรือมีพระรูปใดรูปหนึ่งรับในนามของสงฆ์ก็ถือว่าเป็นสังฆทาน

แต่ถ้าไม่ถวายแก่สงฆ์หรือส่วนรวม ก็อย่าได้เรียก “สังฆทาน” เลย เพราะมันไม่ใช่สังฆทานนั่นเอง