posttoday

แผนปฏิรูปพระพุทธศาสนา โดยคณะสงฆ์

23 กรกฎาคม 2560

สมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคมเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กล่าวถึง “แผนยุทธศาสตร์ในการปฏิรูป

โดย...สมาน สุดโต และสมหมาย สุภาษิต

สมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคมเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กล่าวถึง “แผนยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาสู่การปฏิบัติ” ที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ว่าจะสำเร็จได้ มั่นคง ยั่งยืน เจ้าอาวาสต้องมีความเข้าใจเป็นอย่างดี ถ้าเจ้าอาวาสไม่ช่วย เก่งยังไงก็ไปไม่รอด ถ้าเจ้าอาวาสเก่ง (และช่วย) แผนนี้จะยั่งยืนถาวร

การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “แผนยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาสู่การปฏิบัติ” ในเขตคณะปกครองคณะสงฆ์หนตะวันออก วันพุธที่ 19 ก.ค. 2560 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่จากภาคตะวันออกเข้าร่วมประชุม เช่น พระพรหมสิทธิ เจ้าคณะภาค 10 พระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะภาค 11 พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะภาค 8 พระเทพเมธี เจ้าคณะภาค 9 พระเทพรัตนมุนี เจ้าคณะภาค 12 พร้อมด้วยรองเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด พระสังฆาธิการ รวมทั้งผู้อำนวยการพุทธศาสนาประจำจังหวัด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

ทำให้กระชับ

เมื่อฟังรายงานจาก ดร.พระราชวรเมธี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประธานคณะกรรมการประสานแผนงานฯ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้กล่าวว่า ที่ตั้งชื่อว่า แผนยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ นั้นก็เพื่อให้ทันสมัย สอดคล้องกับที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศได้ตั้งไว้

ในความเป็นจริงนั้น เราไม่ได้ปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด แต่เป็นการกระชับการปฏิบัติหน้าที่ของพระสงฆ์ให้สะดวกรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้นมีระบบยิ่งขึ้น เพราะแต่เดิมเราทำแบบไม่มีระบบทำไปตามความถนัดของแต่ละท่าน จึงทำให้ขาดความเป็นเอกภาพ

ที่มาของกิจการพระพุทธศาสนา

1.กิจการที่พระพุทธเจ้า ทรงประทานแก่พระจักขุบาลเถระ ว่า ธุระในพระพุทธศาสนานี้มี 2 อย่าง

คือ 1) คันถธุระ ได้แก่ การศึกษาเล่าเรียนทรงจำพระปริยัติธรรม แล้วนำไปเผยแผ่ 2) วิปัสสนาธุระ ได้แก่ การพิจารณาชีวิตตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ เพื่อความสิ้นกิเลส

2.กิจการพระพุทธศาสนาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ทุกรูป ที่ปรากฏในสัญญาบัตรพัดยศ ว่า “ขอจงรับภาระธุระในพระพุทธศาสนา”

3.กิจการพระพุทธศาสนาที่เป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ คือ พันธกิจ 6 ด้าน ได้แก่ การปกครอง การศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ ซึ่งใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ เพื่อทำงานให้เป็นระบบ กระชับ มีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันทุกภาคส่วนคณะสงฆ์มีหน้าที่กำหนดชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอำนาจของมหาเถรสมาคม อำนาจของเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาส

หน้าที่พระสงฆ์นั้นก็มีชัดอยู่แล้วตามกิจวัตร 10 อย่างของพระสงฆ์ที่ต้องปฏิบัติ ประกอบด้วย 1.ลงอุโบสถ 2.บิณฑบาต เลี้ยงชีพ 3.สวดมนต์ไหว้พระ 4.กวาดวิหารลานเจดีย์ 5.รักษาผ้าครอง 6.อยู่ปริวาสกรรม
7.โกนผม โกนหนวด ตัดเล็บ 8.ศึกษาและปฏิบัติครูอาจารย์ 9.เทศนาบัติ, ได้ประโยชน์ 10.พิจารณาปัจจเวกขณะ

แผนปฏิรูปพระพุทธศาสนา โดยคณะสงฆ์ ดร.พระราชวรเมธี

เจ้าอาวาสต้องเก่ง

ส่วนความมุ่งหมายหลักของการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา เพื่อให้พระสงฆ์มีความประพฤติดี ปฏิบัติชอบ อยู่ในกรอบของพระธรรมวินัย กฎหมายบ้านเมือง จารีตประเพณี ถ้าพระสงฆ์ช่วยกัน มองเห็นเป้าหมายร่วมกันอย่างนี้ ก็ไม่เกินกำลังที่จะทำได้

บุคคลสำคัญสำหรับที่จะทำให้การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาบรรลุผลอย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพ คือ เจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระสังฆาธิการในระดับต้น ถ้าเจ้าอาวาสปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่อย่างเคร่งครัด ในการปกครอง สอดส่อง ดูแล พระภิกษุสามเณรที่อาศัยอยู่ในวัดก็จะประพฤติดี ปฏิบัติชอบ มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส เป็นเหตุให้เกิดศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไปมากยิ่งขึ้น การปลูกศรัทธาและการรักษาศรัทธาของพุทธศาสนิกชนนี้แหละ เรียกว่า “ความมั่นคงของพระพุทธศาสนา” อย่างแท้จริง

เพราะฉะนั้น แผนยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา จะมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มั่นคง ยั่งยืน เจ้าอาวาสต้องมีความเข้าใจเป็นอย่างดี เจ้าอาวาสไม่ช่วย เก่งยังไงก็ไปไม่รอด

ปฏิรูปพระพุทธศาสนา เป็นวาระแห่งชาติ

ดร.พระราชวรเมธี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประธานคณะกรรมการประสานแผนงานฯ กล่าวในคำปรารภในหนังสือคู่มือแผนยุทธศาสตร์การปฏิรูป กิจการพระพุทธศาสนา 2560-2564 ว่าการปฏิรูปพระพุทธศาสนา เป็นวาระแห่งชาติ เพราะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ที่กำหนดให้ สปช.ทำการศึกษาวิเคราะห์ และจัดทำแนวทางและข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปด้านต่างๆ เสนอ สนช. ครม. และ คสช.

มหาเถรสมาคมได้ดำเนินการให้มีคณะกรรมการ 6 ด้าน บวก 1 เพื่อการปฏิรูป คือ 1.การปกครอง 2.การศาสนศึกษา 3.การศึกษาสงเคราะห์ 4.การเผยแผ่ 5.การสาธารณูปการ 6.การสาธารณสงเคราะห์ และบวก 1 คือ การพัฒนาพุทธมณฑล และมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานแผนยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา (คปพ.) และให้เจ้าคณะภาคแต่งตั้งคณะกรรมการประสานแผนยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาระดับภาค และได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาสู่การปฏิบัติ (Vision to action) ในเขตปกครองคณะสงฆ์แต่ละหนมา 3 ครั้ง ล่าสุดจัดในเขตปกครองคณะสงฆ์หนตะวันออก วันที่ 19 ก.ค. 2560  ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น

ทั้งนี้ เมื่อจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการครบทุกแห่งแล้ว จะได้สรุปผลของการดำเนินงานและรายงานความก้าวหน้าในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาสู่การปฏิบัติเสนอต่อคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ของมหาเถรสมาคม และมหาเถรสมาคม ทราบต่อไป