posttoday

หลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

25 มิถุนายน 2560

คำว่า “จิต” เป็นคำในพระพุทธศาสนา แต่ถ้าเป็นคำสามัญทั่วไป เรามักจะนิยมเรียกกันว่า “ใจ” ในคำคำเดียวกันนี้

โดย...ราช รามัญ

คำว่า “จิต” เป็นคำในพระพุทธศาสนา แต่ถ้าเป็นคำสามัญทั่วไป เรามักจะนิยมเรียกกันว่า “ใจ” ในคำคำเดียวกันนี้ ถ้าไปเทียบเคียงในพระอภิธรรมอาจจะสำลัก เพราะจิตมีไม่รู้จะกี่ดวงต่อกี่ดวงแต่ก็เป็นการขยับปรับเพิ่มเติมกันในชั้นหลังตามกาลสมัย

แต่ที่แน่ๆ พระสงฆ์ในสายปฏิบัติทั้งหลาย ท่านยึดถือเอาว่า “จิต” มีเพียงดวงเดียว และภายใต้จิตดวงเดียวนี้เองที่จะทำให้เราได้เข้าใจตัวเอง เข้าใจอย่างมีปัญญา เข้าใจอย่างแท้จริง เข้าใจแบบไม่ใช่ท่องจำ ใครสักคนที่เข้าใจในเรื่องของจิตได้โดยรอบ ผมเชื่อเหลือเกินว่าไม่ธรรมดาแน่

ในความไม่ธรรมดาตรงนั้น คือ การเข้าใจชีวิตของตัวเอง เข้าใจชีวิตจริงๆ ว่าเกิดมาทำไม เพื่อประโยชน์อะไรกันแน่ คนเราเกิดมาเป็นมนุษย์ได้ด้วยเพราะบุญก็ยังมีความทุกข์มากมายเสียขนาดนี้ ถ้าไม่มีบุญได้เกิดมาเป็นมนุษย์แต่ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไปเกิดเป็นเปรต สัมภเวสี มันจะทุกข์เพียงไหน

ดังนั้น เรื่องของการปฏิบัติธรรมในจิตใจ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งนัก ที่จะพัฒนาศักยภาพทางจิตวิญญาณของเราให้เจริญก้าวหน้าไปด้วยธรรมอันยิ่ง

ใครที่เคยเฝ้าดูความคิดของตัวเอง...เวลาที่มันต้องการอยากได้ อยากเป็น อยากมี แล้วเราไปขัดมันที่ใจ หรือขัดใจ (ตัวเอง) ถ้าเราทำได้แบบนี้ นี่แหละคือการฝึกจิตของตัวเองเพื่อให้หลุดพ้นจากการร้อยรัดในทุกสรรพสิ่งทั้งปวง

พูดง่ายๆ ว่า เอาผล...ของการปฏิบัติวิปัสสนามาเป็นวิธีในการปฏิบัติก็ย่อมได้เช่นกัน หลายคนที่เข้าใจและเข้าถึงธรรมะได้เพราะนำเอาผลของธรรมมาเป็นวิธีการปฏิบัติ ด้วยการค่อยๆ ฝึกจิต ขัดเกลาใจไปเรื่อยๆ

ในยุคก่อนพระสงฆ์ที่พูดเรื่องจิตได้แจ่มชัด เห็นจะมีหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ที่ จ.สุรินทร์ หลวงปู่ท่านชัดในเรื่องนี้มาก ท่านเข้าใจทุกแง่มุม ทุกมิติของการฝึกจิต หรือการเฝ้าตามดู ตามรู้ ความคิด บางคนคิดว่าการเฝ้าตามดูความคิดเป็นการเดินตามหลังเงาของจิต ซึ่งเป็นกระบวนการทางมายาแห่งจิตอย่างหนึ่ง

แต่สำหรับใครที่ใช้วิธีนี้แบบนี้ คำว่า “มรรคา” ไม่ได้อยู่ไกลอีกต่อไป เพียงแต่เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม จะทำให้เราได้มองเห็นและเข้าใจโดยวิถีที่กว้างขึ้นไปอีก

ในวงการพระสงฆ์ไทย วันนี้มีหลวงพ่ออยู่รูปหนึ่งที่พร่ำเพียรสอนเรื่องของจิต แล้วก็มีแนวทางในการฝึกจิตย่างเป็นรูปธรรม อาศัยอานาปานสติเป็นพื้นในการฝึก แล้วต่อเนื่องไปถึงเรื่องของสติปัฏฐาน ผมกำลังหมายถึง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ปัจจุบันท่านพำนักที่ สวนโพธิญาณอรัญวาสี

พระผู้ที่มีปฏิปทางดงาม แต่คราวหนึ่งเคยมีข่าวดังครึกโครมกับ ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต ที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังในขณะนี้ ในห้วงทำนองที่ว่าท่านมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง แต่แล้วกรรมก็ดี และวันเวลาที่เลยผ่านพ้นไป ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว หลวงพ่อปราโมทย์ ยังสง่างามด้วยธรรม มุ่งสร้างแต่กรรมที่ดี และกรรมนั้นก็สนองมาให้ท่านด้วยดีเช่นเดียวกัน

บนโลกใบนี้ เรามักจะลืมกรรม แต่กรรมไม่เคยลืมเรา ใครที่ทำอะไรไว้กับใคร สักวันหนึ่งผลนั้นย่อมมาส่งผล ถ้าหากกุศลในใจน้อยลง หรือกรรมนั้นได้ส่งผลแรงและเร็วอย่างทันท่วงที

หลวงพ่อปราโมทย์ ท่านเป็นคนกรุงเทพฯ อยู่ที่บ้านบาตร ป้อมปราบศัตรูพ่าย เคยบวชเรียนตามประเพณีกับหลวงพ่อปัญญา นนฺทภิกฺขุ ท่านเป็นอดีตพนักงานราชการของ กอ.รมน. และเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเป็นผู้ชำนาญให้องค์การอีกมากมาย

ท่านเริ่มศึกษาธรรมเมื่อปี 2502 กับหลวงพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม และศึกษากรรมฐานกับพระกรรมฐานในภาคอีสานหลายรูป

แล้วท่านมาบวชครั้งที่ 2 เมื่อปี 2544 ที่วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นวัดของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระกรรมฐานชื่อดังลูกศิษย์ยุคแรกๆ ของพระอาจารย์มั่น การบวชครั้งนี้มีพระราชวรคุณ (สมศักดิ์ ปณฺฑิโต) เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาพระอุปัชฌาย์แนะนำให้ไปจำพรรษาที่ สวนสันติธรรม ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

นอกจากท่านจะเป็นพระนักปฏิบัติ ท่านยังเป็นนักเขียนอีกด้วย มีผลงานที่น่าติดตาม อาทิ วิถีแห่งความรู้แจ้ง, ประทีปส่องธรรม, ทางเอก, วิมุตติมรรค เป็นต้น

ในดงขมิ้น...วันนี้ดูจะมีสารพัดเรื่องราวที่มักจะมาจากความโลภของพระฝ่ายปกครอง ที่แม้แต่มหาเถระยังทำตาบอดสี ทำหูหนวก ไม่ได้ยินมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องเงินทอน หรือเรื่องที่เจ้าคณะเขตบางเขตทำท่ารีดไถพระในเขตปกครอง อย่างเขตสายไหม เป็นต้น

แต่ในดงขมิ้นก็ยังมีพระที่งดงามด้วยธรรม อย่างหลวงพ่อปราโมทย์ ที่อยู่แบบไม่เปลืองข้าวสุกญาติโยม เพราะท่านปฏิบัติและสอนญาติโยมและเผยแผ่ธรรมอยู่เนื่องๆ ตลอดเวลา ไม่เคยหยุดพัก ผู้ใดปรารถนาธรรมให้เย็นใจ ปรารถนากราบพระดี ชักชวนให้มากราบหลวงพ่อปราโมทย์  หรือฟังธรรมของท่านมากๆ แล้วจิตใจจะเบิกบานอย่างแท้จริง