posttoday

จะเอายังไงดีเมื่อ ม.44 ยังเอาไม่อยู่

12 มีนาคม 2560

คณะสงฆ์วัดพระธรรมกายและบรรดาศิษย์ทั้งหลายเข้าวัดปฏิบัติธรรมได้ตามปกติ เมื่อดีเอสไอยุติบทบาทในการปิดล้อมวัด

โดย...ส.คนจริง

คณะสงฆ์วัดพระธรรมกายและบรรดาศิษย์ทั้งหลายเข้าวัดปฏิบัติธรรมได้ตามปกติ เมื่อดีเอสไอยุติบทบาทในการปิดล้อมวัด แต่หาตัวธัมมชโยไม่พบ จึงมีคำถามว่าจะเอายังไงดีเมื่อ มาตรา 44 ยังเอาไม่อยู่

ก่อนหน้านั้นมีรายงานข่าวว่าคณะสงฆ์ระดับผู้ปกครองชั้นสูง ตั้งแต่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าคณะภาค 1 และรองเจ้าคณะภาค 1 เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดีเอสไอ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือไม่น้อยกว่า 10-20 ครั้ง เพื่อแก้ปัญหาวัดพระธรรมกาย แต่ประชุมแล้วในทางปฏิบัติกลับมองไม่เห็น แม้จะแถลงให้สาธารณชนได้รับทราบสักนิดหนึ่งก็ไม่มี เพราะมีการขอร้องจากฝ่ายบ้านเมืองว่าเป็นเรื่องลับมาก จึงเป็นที่มาของข่าวลือและนินทาว่าคณะสงฆ์ชั้นผู้ปกครองไม่ทำงาน ไม่เอาใจใส่เรื่องสำคัญอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ในข้อเท็จจริงพระผู้ใหญ่ทุ่มเทในการแก้ปัญหาไม่เคยพักผ่อน เช่นสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กลับจากล้างไตที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ต้องมานั่งเป็นประธานในการประชุมจนดึก เพราะไม่อยากเห็นปัญหายืดเยื้อ และต้องการรักษาพระพุทธศาสนาไม่ให้บอบช้ำ แต่ประชุมแล้ว พูดแล้ว ลอยไปตามลม ไม่มีใครเห็นในทางปฏิบัติจนคนสงสัยว่ามหาเถรสมาคมไม่ทำอันใดในฐานะที่เป็นองค์กรปกครองสูงสุด

ขณะนี้ฐานะธัมมชโย เหลือเพียง พระไชยบูลย์ สุทธิผล ส่วนทัตตชีโว เหลือเพียงพระเผด็จ ทตฺตชีโว เพราะถูกถอดจากสมณศักดิ์ กลายเป็นพระลูกวัดธรรมดา ส่วนยังเป็นพระอยู่หรือไม่ ออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่าตราบใดที่ยังไม่สึกก็ยังเป็นพระภิกษุ เจอเมื่อไรจับสึกได้เลย แต่อีกฝ่ายหนึ่งว่าไม่ต้องจับสึก เพราะหมดภิกษุภาวะไปแล้ว 

 การที่พระภิกษุจะพ้นจากความเป็นพระภิกษุนั้น ต้องทำอะไร ตามหลักตามธรรมวินัยและ กฎ มส.มีดังนี้

ผู้ที่จะขาดจากความเป็นพระภิกษุ

1.ละเมิดวินัยขั้นอุกฤต คือปาราชิก 4 ข้อใดข้อหนึ่งคือ เสพเมถุน ฆ่ามนุษย์ ลักทรัพย์ และอวดอุตริมนุสธรรม  ผู้ต้องอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นภิกษุโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องทำพิธีลาสิกขา หรือเปลื้องผ้าสบงจีวรแต่อย่างใด หาเสื้อกางเกงมาสวมใส่ก็สิ้นเรื่อง คนพวกนี้เป็นสมี กลับมาบวชอีกไม่ได้ อุปัชฌาย์รูปใดให้บวชก็มีโทษด้วยนะ 

2.ไม่อยากเป็นพระภิกษุต่อไป กล่าวคำลาสิกขาบทให้ที่ประชุมสงฆ์ หรือหมู่คณะให้รู้ความว่าขอลาสึก ทุกคนรู้ความหมาย ก็สิ้นสุดความเป็นภิกษุ ประเภทนี้สึกแล้วบวชได้อีก กี่ครั้งก็ได้

3.เป็นพระภิกษุแต่ไปเข้ารีตศาสนาอื่น ท่านให้ขาดจากความเป็นภิกษุไปเลย

4.ภิกษุที่เปลื้องผ้าสบงจีวรออกแล้วนุ่งห่มอย่างคฤหัสถ์ด้วยความสมัครใจ ก็ขาดจากความเป็นภิกษุเช่นกัน

5.ภิกษุถูกบังคับให้เปลื้องสบงจีวรออก แล้วนุ่งห่มอย่างคฤหัสถ์ด้วยความเศร้าใจ (หรือสมัครใจ) ก็ขาดจากความเป็นภิกษุด้วยเหมือนกัน

6.นิคหกรรมวินิจฉัยว่าผิดตามข้อกล่าวหา ต้องสึกในเวลาที่กำหนด (ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 21)

กรณีไชยบูลย์ ธัมมชโย ยังคงความเป็นภิกษุในทางวินัยหรือไม่ คณะสงฆ์ระดับผู้ปกครองเท่านั้นจะต้องประชุมวินิจฉัย (แต่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากประชุมแก้ปัญหาเรื่องอื่นๆ) แต่ถ้ายกกฎ “มหาเถรสมาคม” ฉบับที่ 21 มาพิจารณาดังที่ไพบูลย์ นิติตะวัน เสนอแนะ ก็เป็นทางออกอีกทางหนึ่ง (แต่ท่านผู้รู้ว่า จะใช้ฉบับที่ 21ได้หลังจากใช้กฎฉบับที่ 11 เรื่องนิคหกรรม ที่วินิจฉัยว่าภิกษุที่ถูกกล่าวหานั้นผิดจริง)

ไพบูลย์ นิติตะวัน ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอว่า มหาเถรสมาคม (มส.) ควรเร่งนำกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 (พ.ศ. 2538) ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ ข้อ 3 ในกรณีพระภิกษุรูปใด ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ หรือไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่งคณะปกครองสงฆ์มีอำนาจวินิจฉัยให้สละสมณเพศได้ ซึ่งสามารถดำเนินการสั่งให้พระธัมมชโยพ้นจากสมณเพศได้ในทันที  ถ้าทำตามนี้จะช่วยให้การชุมนุมที่วัดพระธรรมกายคลี่คลายลง เพราะศิษย์วัดธรรมกายจะหมดข้ออ้างที่ว่าพวกเขาปกป้องพระธัมมชโยเป็นการปกป้องพระภิกษุ ปกป้องพุทธศาสนา กลายเป็นว่าสถานะของธัมมชโยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ถูกคณะสงฆ์ขับออกสมณเพศไปแล้ว ไม่ใช่พระภิกษุสงฆ์อีกต่อไป

ส่วนผู้รู้และมีประสบการณ์อีกท่านหนึ่งเสนอทางออกที่จะได้ผลสัมฤทธิ์ว่า ภาครัฐ และสังคมต้องไว้วางใจคณะสงฆ์ ที่มีมหาเถรสมาคมเป็นองค์กรสูงสุด โดยมอบหมายให้มหาเถรสมาคมพิจารณาโทษธัมมชโย ตามหลักธรรมวินัย และไม่ขัดกับกฎหมาย ภายในกรอบเวลาที่กำหนด ก็น่าจะได้ข้อยุติกรณีธัมมชโยได้ โดยไม่ต้องใช้กำลัง หรือมาตรา 44 ไปควบคุมพื้นที่่วัดพระธรรมกาย แต่ข้อเสนอนี้สายไปแล้ว เพราะรัฐดำเนินการจนกลายเป็นเรื่องที่สังคมทั่วโลกตกใจว่าประเทศไทยเมืองพุทธศาสนา มีเรื่องอย่างนี้ด้วยหรือ

 ส่วนธัมมชโยที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี กลายเป็นปริศนาให้สังคมถามว่าจะเอายังไง หรือจะปล่อยให้ลอยนวล เมื่อมาตรา 44 ก็ยังเอาไม่อยู่