posttoday

พระเจ้าแผ่นดิน...ผู้ทรงสถิตในจิตใจชั่วนิรันดร!

16 ตุลาคม 2559

เจริญพรสาธุชนชาวไทย... ยามนี้คงไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องราวใดๆ ด้วยทุกคนกำลังอยู่ในช่วงไว้อาลัยต่อการสวรรคต

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพรสาธุชนชาวไทย... ยามนี้คงไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องราวใดๆ ด้วยทุกคนกำลังอยู่ในช่วงไว้อาลัยต่อการสวรรคต เมื่อวันที่ ๑๓ ต.ค.ที่ผ่านมาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ...ซึ่งได้รับการกราบบังคมทูลเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ ๙ มิ.ย. ๒๔๘๙ ขณะที่มีพระชนมายุได้ ๑๘ พรรษา ๖ เดือน ๔ วัน ...เนื่องจากทรงพระเยาว์ จึงได้มีการแต่งตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ขึ้น ต่อมาในวันที่ ๕ พ.ค. ๒๔๙๓ จึงได้เสด็จเข้าสู่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก อันเป็นพิธีรับรองฐานะความเป็นพระประมุขของประเทศไทย ตามขัตติยราชประเพณี เฉลิมพระปรมาภิไธย ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” ...โดยในพระราชพิธีได้ทรงมีพระบรมราชโองการต่อผู้ที่มาประชุมในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ว่า

“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม”

แผ่นดินไทย จึงเป็นแผ่นดินธรรม ที่ประกอบไปด้วยศาสนาต่างๆ ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แม้ชนส่วนใหญ่มากกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ จะนับถือพระพุทธศาสนา ทั้งนี้ด้วยเพราะการปกครองแผ่นดินโดยธรรม... ถือหลักการเป็นสำคัญ ถือธรรมเป็นใหญ่... ดำเนินไปอย่างมีความยุติธรรม เป็นธรรมาธิปไตยและยกย่องธรรมาธิปไตย จึงเป็นประเทศที่สมฐานะแผ่นดินธรรม... ด้วยพระประมุขของประเทศทรงอุปถัมภ์คุ้มครอง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกศาสนา ดังปรากฏชื่อเสียงสมเป็นพุทธประเทศ

การเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอน หรือให้เกิดการเรียนรู้ในพระธรรม จึงเจริญเติบโตมาก ดังปรากฏในปัจจุบัน เพื่อการพัฒนาประชาชนให้เป็นผู้รู้ธรรม คือ รู้สิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง เพื่อการประพฤติอย่างมีธรรม ที่จะนำไปสู่การสร้างธรรมนำชีวิต... พัฒนาชีวิตที่มีธรรม นำองค์กร... และสังคมประเทศชาติ

พระเจ้าแผ่นดิน...ผู้ทรงสถิตในจิตใจชั่วนิรันดร!

 

ปัญหาในสังคมจึงแก้ไขได้ในทุกครั้ง ไม่ว่าจะใหญ่หลวงขนาดไหนแห่งปัญหาเรื่องราวนั้นๆ และไม่ว่าปัญหานั้นจะมาจากภายใน... ภายนอก... มาจากคนด้วยกัน หรือมาจากสิ่งแวดล้อมดินฟ้าอากาศ สัตว์ทั้งหลาย... ทั้งนี้ ด้วยอำนาจการปกครองแผ่นดินโดยธรรมของพระองค์ ที่ยึดแผนการปกครองตามแบบธัมมิกสูตร ในพระพุทธศาสนา ดังมีเนื้อหาสาระกล่าวโดยสรุปว่า “...เมื่อใดพระราชาไม่ทรงตั้งอยู่ในธรรม ในสมัยนั้นข้าราชการ พราหมณ์คหบดี ชาวนิคมชนบท ก็พลอยไม่ตั้งอยู่ในธรรมด้วย... พระอินทร์ พระอาทิตย์ ดาวฤกษ์ กลางคืน กลางวัน ฤดูเดือนปี ก็จักแปรปรวนไปด้วย

แต่หากพระราชาทรงตั้งอยู่ในธรรม ผู้อื่นก็จักพลอยตั้งอยู่ในธรรมด้วย ฤดูเดือนปี... ดินฟ้าอากาศ ก็ไม่แปรปรวนวิปริต พืชผลไร่นา ก็จักพลอยอุดมสมบูรณ์ หมู่ชนก็จักมีความสงบสุข เข้าถึงฐานะประโยชน์ความเหมาะควร... โดยมีสาระสำคัญในท้ายพระสูตรดังกล่าวว่า... ในหมู่มนุษย์ ผู้ใดได้รับยกย่องว่าประเสริฐ หากไม่ประพฤติธรรม ประชาชนก็พลอยไม่ประพฤติธรรมตามด้วย แผ่นดินก็จักมีแต่ความเดือดร้อน ชนทั้งปวงก็จะจมอยู่ในความทุกข์... หากตรงกันข้ามก็จักเป็นสุข... กล่าวเปรียบว่า โคหัวหน้าฝูง เมื่อข้ามน้ำว่ายไปคดเคี้ยว โคทั้งปวงก็ว่ายน้ำคดไปตาม หากไปตรง โคทั้งปวงก็ว่ายน้ำไปตรงตาม...”

หากนับวันฉัตรมงคลที่ ๕ พ.ค. ๒๔๙๓ เป็นวันเวลาเริ่มต้นแห่งการปกครองแผ่นดินโดยธรรม... ก็จักครบ ๖๗ ปีแห่งการครองราชย์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในวันที่ ๕ พ.ค. ๒๕๖๐... ที่เหลืออีกไม่กี่เดือน ประชาชนชาวไทยจะได้ร่วมเฉลิมฉลองอายุครองราชย์มายาวนานที่สุดในโลกของพระเจ้าแผ่นดิน ที่ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระทศพิธราชธรรม... อันจะหาพระราชาแห่งแว่นแคว้นประเทศใดมาเสมอเหมือนมิได้ สมดังที่ชาวโลกถวายการเรียกขานว่า พระองค์ท่านเป็น King of the King ที่แท้จริง

“ขอน้อมถวายพระพร ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เสด็จสู่แดนธรรมชาติ ในวิถีพุทธธรรม...เทอญ” ถวายพระพร