สู่เทศกาลงานสารทเดือนสิบ!!

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา เข้าสู่เทศกาลเดือนสิบ ได้รับนิมนต์ไปประกอบศาสนกิจที่พระธาตุภูหว้า จ.ภูเก็ต ต่อเนื่องเข้าสู่พื้นที่นครศรีธรรมราช เจ้าของเทศกาล “ประเพณีเดือนชิงเปรต” ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๐ ก.ย. ๒๕๕๙ ซึ่งต้องกระทำสัตตาหะกรณียะฯ เพื่อฉลองศรัทธาญาติโยมและเยี่ยมเยียนพระภิกษุอาพาธ ด้วยประสบอุบัติเหตุลื่นตกลงมาจากพระธาตุเจดีย์ จนกระดูกที่ข้อต่อเชิงกรานหัก และในวันที่ ๑๗ ก.ย. ๒๕๕๙ จะเดินทางสู่แผ่นดินพระศาสนาที่เคยรุ่งเรืองในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย เพื่อกระทำการพลีบุญแด่เปตพลี ตามกิจนิมนต์... ที่ญาติโยมต้องการประกอบการกุศล เพื่ออุทิศให้แก่ผู้ตายตามความเชื่อที่ว่า ตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ ไปจนถึงแรม ๑๔ ค่ำ ในเดือนสิบนี้ โลกทั้งสามจะเปิดให้สัตว์ทั้งหลายได้ใช้ชีวิตของตนตามอัธยาศัย

การอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว ที่ภาคกลาง เรียก “ตรุษสารท” ภาคใต้ เรียก “ประเพณีเดือนชิงเปรต” ภาคอีสาน เรียก “ประเพณีข้าวประดับดิน” นั้น ด้วยได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนาในเรื่องการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตา แด่ญาติสายโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้ว เพื่อต้องการให้บุคคลผู้มีพระคุณ ผู้เป็นที่รัก ได้ถึงซึ่งความสุขในปรโลก ตามเรื่องราวที่ปรากฏในพุทธศาสนา กรณีบรรดาเปรตที่เป็นญาติของพระเจ้าพิมพิสาร ที่รอคอยการอุทิศบุญมาหลายช่วงพุทธันดร เมื่อพระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พระเจ้าพิมพิสาร ได้อุทิศทานให้แก่ญาติมิตรในเปรตภูมิเหล่านั้น ด้วยภัตตาหาร ผ้า น้ำ ที่เป็นทานอันถวายถึงสงฆ์ อันมีพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นประธาน จึงยังให้เกิดความสำเร็จแห่งอานิสงส์ของผลบุญถึงซึ่งหมู่ญาติเหล่านั้น ให้มีร่างกายอิ่มเอิบ ผิวพรรณผ่องใส มีเสื้อผ้าอาภรณ์เป็นทิพย์ ได้ดื่มกินอาหารน้ำ อันเป็นทิพย์ สมบูรณ์ด้วยความสุขดุจเทพดาทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ทักษิณาที่มหาบพิตรถวายอุทิศหมูญาติที่สำเร็จในบุญกุศล อันมีอานิสงส์ใหญ่แล้วนั้น เพราะเหตุที่ได้กระทำในเขตเนื้อนาบุญอันยอดเยี่ยม ในโลกที่มีพระสงฆ์เป็นเขตบุญอันเลิศ ทานนี้จึงสัมฤทธิผลในขณะนี้ทันที ดังภาพที่ปรากฏให้ได้เห็น...

ในวันเสาร์ที่ ๒๔ ก.ย. ๒๕๕๙ (แรม ๘ ค่ำเดือน ๑๐) ในห้วงเวลาแห่งการพลีบุญอุทิศแด่ญาติมิตรผู้ล่วงลับไปแล้ว คณะศรัทธาชาวหริภุญไชยได้รวมตัวกันในความเป็นศาสนิกชนในพระศาสนา จัดทำบุญกุศลในเทศกาลเดือนสิบ (เดือน ๑๒ เหนือ) เพื่อถวายแด่พระนางเจ้าจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญไชย ได้ทรงโปรยทานอุทิศบุญแด่ญาติมิตรบริวาร และเหล่าพสกนิกรในแว่นแคว้นที่ล่วงลับไปสู่ภพภูมิต่างๆ เพื่อจะได้รับอานิสงส์แห่งทาน...ศีล...ภาวนา โดยจะประกอบทั้งธรรมพลีและอามิสพลี ...มีการตักบาตรข้าวสุก น้อมถวายสังฆทานที่เรียกว่า มตกภัต เพื่อผู้ล่วงลับไปแล้ว มีการออกโรงทานเป็นอามิสพลีในนามพระนางเจ้าจามเทวี เพื่อทรงโปรยทานแด่สรรพสัตว์ทั้งหลายดังในอดีต และสำคัญยิ่งคือ การบูชาธรรม ...ฟังธรรม ...เจริญภาวนา เพื่อเป็นธรรมพลีต่อประชาสัตว์ในแว่นแคว้นและสรรพสัตว์ทั้งหลายในทุกภพภูมิ... วันเสาร์ที่ ๒๔ ก.ย. จึงเป็นวันมหากุศลที่กลับคืนมาสู่อาณาจักรหริภุญไชย (ลำพูน) อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยเฉพาะการจัดถวายแด่พระนางเจ้าจามเทวีที่จะได้ทรงกระทำมหาทาน ดุจดังสมัยมีพระชนม์อยู่ ด้วยความรักศรัทธาจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่านจากในอดีตถึงปัจจุบัน จึงขอบอกกล่าวข่าวมหามงคลมายังสาธุชนทั้งหลาย มีโอกาสจะได้เดินทางมาร่วมงานบุญเทศกาลสารทเดือนสิบที่ลานอนุสาวรีย์พระนางเจ้าจามเทวี จ.ลำพูน

เจริญพร