การแก้ปัญหา... ที่ไม่นำไปสู่การทำลาย!!

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระศาสนา... ฝนฟ้าชุ่มฉ่ำแผ่นดินภาคเหนือจนเหลือล้น เล่นเอาชาวไร่-ชาวนาใจหายใจคว่ำ ด้วยเศรษฐกิจจากพืชสวนพืชไร่กำลังดี ลำไยกิโลละหลายบาทได้ราคาดีกว่าปีที่แล้วเกือบ ๓ เท่าตัว บางสายพันธุ์ราคาสูงมากกว่า ๑๐๐ บาท/กิโลกรัม

จริงๆ แล้ว ภูมิประเทศของบ้านเราคุ้นเคยกับน้ำท่วม...น้ำหลากอยู่แล้ว ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร หากเป็นไปตามฤดูกาล ด้วยสามารถเตรียมพร้อมเพื่อการดำรงชีพอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้เป็นไปตามปกติ แต่ที่มันไม่ค่อยปกติเพราะร่องเวลาที่ผันแปรไม่ตรงตามฤดูกาล จึงสับสนและยากต่อการตั้งหลักเผชิญกับปัญหา

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องน้ำท่วม...น้ำหลาก ก็คงไม่ใช่ภัยร้ายแรงอะไรมากนัก หากเปรียบเทียบกับความขาดแคลนน้ำพักน้ำแรง... น้ำคำและน้ำจิตที่เหือดแห้งลงทุกทีๆ ในสภาพสังคมปัจจุบัน ดังปรากฏเรื่องราวในหน้าสื่อทุกชนิด ที่พบแต่เรื่องแล้งน้ำใจ ไร้น้ำแรง ขาดแคลนน้ำพัก..

ยิ่งเปิดเข้าไปดูข่าวสารในสื่อยุคไอที ยิ่งสมเพชเวทนานักกับข่าวสารที่ปรากฏอย่างไร้การควบคุม จนนำไปสู่การเรียนรู้ที่ออกนอกกรอบของอิสรชนที่กำลังเพาะบ่มจิตวิญญาณคนยุคใหม่ ... หัวใจไร้โครงสร้างศีลธรรม ... มากมายไปด้วยทิฏฐิ ที่บ่มเชื้อความเห็นผิดให้พ่นวจีกรรมทุจริตที่ก่อเกิดมาจากความดำริผิดอย่างน่ากลัว...

สังคมจึงแบ่งไปเป็นหมู่คณะ ไม่เว้นแม้แต่ในพระศาสนา ที่มากไปด้วยลัทธิอาจารวาทแม้ในนิกายเดียวกัน... จึงไม่แปลกที่จะเกิดความอ่อนด้อยให้ปรากฏในองค์กรศาสนา... เราจึงเห็นแรงกระทำต่อองค์กรศาสนาผ่านสำนักอาจารวาททั้งหลายในหลากหลายรูปแบบ อันเป็นไปตามเงื่อนไขหรือเหตุปัจจัยนั้นๆ

ถ้ามองอย่างผิวเผินก็คงรู้สึกเป็นธรรมดา... ที่ต้องมีเหตุการณ์ต่างๆ ตามที่กล่าว... แต่หากมองให้ลึกๆ ซึ้งๆ ก็คงต้องนำเรื่องเหล่านั้นกลับมาพิจารณาให้รอบด้าน แล้วจะได้รับความรู้สึกว่า เอ๊ะ! นี่พระพุทธศาสนาของเรากำลังถูกกระทำในทางลบมิใช่หรือ!?

ไม่ว่าใครจะรบกับใคร... ไม่ว่าใครจะทำลายใคร... แต่ใครๆ เหล่านั้นไม่ได้เสียหายเท่ากับพระพุทธศาสนาของเรา ที่จะต้องดำเนินสืบเนื่องอายุไปอีกหลายชั่วอายุคน ยังมีประโยชน์อีกยาวนานต่อสัตว์โลกในแต่ละยุคสมัย

ดังนั้น การกระทำการใดๆ ของทุกฝ่าย... ไม่ว่าฝ่ายนั้นๆ จะอ้างความชอบธรรม ถูกต้อง บริสุทธิ์ เพื่อภาพลักษณ์ฐานะของตนและองค์กรอย่างไร... นั่นไม่ใช่ข้อยุติความเสียหายต่อพระศาสนาที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากอำนาจตัณหาทิฏฐิที่แต่ละฝ่ายพยายามจะแข่งขัน โต้ตอบ เอาชนะคะคานกันในทุกยุทธวิธี แม้จะออกนอกกรอบคำสั่งสอนในพระศาสนา เช่น พูดเท็จ ใส่ร้าย เบียดเบียนผู้อื่น เพื่อความชอบธรรมสวยงามของฝ่ายตน

การเดินเลยกรอบศีลธรรม ออกนอกฝั่งคุณธรรม จนก่อความผิดเพี้ยนวิปริต ให้สูญเสียวัฒนธรรมประเพณีในเชิงอารยธรรมไป ดังเรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชในบ้านเราที่ยังไม่เรียบร้อย จนส่อเค้าความเสียหายต่อฐานานุรูปแห่งความเป็นประเทศพระพุทธศาสนา ที่จะยากต่อความชอบธรรมต่อการที่จะกล่าวอ้างความเป็นประเทศศูนย์กลางพระพุทธศาสนา ที่ประชากรมากกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นพุทธมามกะ อันสืบเนื่องอายุพระพุทธศาสนามายาวนาน

จึงขอให้ผู้มีอำนาจในฐานะเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายศาสนจักรและอาณาจักร ได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องราวดังกล่าวด้วยความรอบคอบและรวดเร็ว โดยแยกให้ออกระหว่างพระพุทธศาสนากับองค์กรศาสนา และองค์กรศาสนากับบุคคลในศาสนา... ตลอดจนถึงบุคคลที่ประพฤติถูกต้องกับบุคคลที่ประพฤติไม่ถูกต้อง

อย่าได้นำเอาทุกอย่างมาหุงต้มรวมอยู่ในหม้อเดียวกัน จนเป็นจับฉ่ายเหมือนกัน ที่ยากจะแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไร... จนยากที่จะดำเนินการแก้ไข!!

เจริญพร