posttoday

เจ้าคุณ ความในใจของอมโรภิกฺขุ

03 กรกฎาคม 2559

อาตมารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมในวันนี้ และมีความสุขเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมา

โดย...สมาน สุดโต

เจ้าคุณ

อาตมารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมในวันนี้ และมีความสุขเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาที่วัดป่านานาชาติและกลับมาที่ จ.อุบลฯ เวลาใครถามว่าหลวงพ่อเกิดที่ไหน อาตมาจะบอกว่าเกิดที่ จ.อุบลฯ เขาก็จะมองอย่างสงสัย อาตมาก็จะบอกว่า เกิดเป็นพระที่ จ.อุบลฯ ชีวิตพระภิกษุของอาตมาเริ่มที่นี่ อาตมาจึงรู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านเกิดของอาตมาโดยแท้

พวกเรามารวมกันในวันนี้เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ให้หลวงพ่อปสันโน ท่านเจ้าคุณโพธิญาณวิเทศและอาตมา เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ สิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อปสันโนได้กล่าวมาซึ่งอาตมาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับท่านว่า “เราไม่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในฐานะส่วนตัวหรือด้วยความสำเร็จหรือคุณความดีเฉพาะตัวเรา หากได้รับในฐานะที่เป็นตัวแทนของหมู่คณะ แสดงถึงการได้รับความยอมรับ ยกย่องเชิดชูเกียรติในคุณค่า คุณธรรมความดีงามและคุณประโยชน์ของหมู่คณะศิษย์หลวงพ่อชาทั้งหมด”

ในวาระนี้ อาตมาจึงรู้สึกว่าเป็นการเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะแสดงความซาบซึ้งใจและกตัญญูกตเวทีต่อคุณพระศรีรัตนตรัย ต่อพระพุทธเจ้าครูบาอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ของเรา ผู้ทรงค้นพบและเปิดเผยสัจธรรมที่พระอริยสงฆ์ทั้งหลายได้ปฏิบัติสืบต่อกันมากว่า 2500 ปีแล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความกตัญญูและความสำนึกในพระคุณของหลวงพ่อชาซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ผู้สั่งสอนและนำทางพวกเราในยุคนี้ รวมถึงครูบาอาจาย์ผู้ใหญ่ในหมู่คณะของเราที่ได้มารวมตัวกัน ณ ที่นี้ในค่ำคืนนี้ ที่หลวงพ่อปสันโนได้กล่าวนามมาแล้ว หลวงพ่อเลี่ยม หลวงพ่อคูณ วัดนาโพธิ์ หลวงพ่อสุเมโธ และครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ

อย่างที่อาตมาได้พูดอยู่เสมอว่า คุณธรรมและคุณงามความดีทั้งหลายที่อาตมาได้พัฒนาให้เกิดขึ้นในชีวิต ตลอดจนความสงบและความรู้ความเข้าใจใดๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนเกิดจากการสั่งสอนนำทางจากมหาบุรุษและครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านี้ หากปราศจากความปรารถนาดี ความเมตตากรุณาและปัญญาของท่าน อาตมาคงไม่ได้มาถึงจุดนี้ ด้วยเหตุนี้อาตมาจึงขอแสดงความซาบซึ้งในพระคุณของครูบาอาจารย์ ด้วยการประนมมือทั้งสองเข้าด้วยกันและขอกล่าวว่า “ขอบคุณมากครับ”

เจ้าคุณ ความในใจของอมโรภิกฺขุ

 

หลวงพ่ออมโร ยกเหตุการณ์ในวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพของพระพุทธเจ้าก่อนนิพพาน ณ ป่าสาลวันเมืองกุสินารา มาเล่าให้ที่ประชุมฟัง ว่าเป็นความอัศจรรย์ยิ่ง คนธรรพ์มาบรรเลงดนตรีถวาย เทวดาและพรหมมารวมตัวกัน ต้นไม้ผลิดอกนอกฤดูกาล จนพระอานนท์ทูลถามความอัศจรรย์ที่เกิด ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสว่าก็เป็นเพียงอามิสบูชา ผู้ที่ต้องการจะแสดงความเคารพบูชาต่อพระตถาคตอย่างยิ่ง ผู้นั้นจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระตถาคต จึงจะเป็นการปฏิบัติบูชาซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความเคารพอย่างสูงสุด...

ดังนั้น เมื่อได้มาร่วมพิธีกรรมในวันนี้ เห็นการแสดงความเคารพอย่างสูงด้วยการถวายดอกไม้และการกราบไหว้ทำให้อาตมาระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า และคำพูดระหว่างพระอานนท์และพระพุทธเจ้าที่กล่าวมาแล้ว ถ้าเรามีความเคารพ มีความซาบซึ้งในพระคุณของครูบาอาจารย์ และอยากจะแสดงออกถึงความรู้สึกนั้น การกราบไหว้ การถวายดอกไม้ หรือการกล่าววาจาที่แสดงออกถึงความเคารพนั้นก็ดีอยู่ แต่สิ่งเหล่านั้นยังเป็นเรื่องของโลกธรรม และยังเป็นเพียงอามิสบูชา การแสดงออกถึงความเคารพ ความซาบซึ้งและความกตัญญูกตเวทีในทางที่สูงกว่านี้ แม้จะยากขึ้น แต่ก็มีประโยชน์มากกว่า คือ การปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า นั่นแหละจึงจะเป็นแสดงความเคารพที่สมบูรณ์ที่สุด

หลวงพ่อได้พูดถึงสมณศักดิ์ที่ได้รับพระราชทานว่าทำให้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะมีเกียรติยิ่ง

คำว่า “คุณ” ตามความเข้าใจของอาตมาคือ คุณธรรมคุณงามความดี ส่วนคำว่า “เจ้า” หมายถึงสูงสุด ดีสุด ดังนั้นการที่เราได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคุณซึ่งเป็นเสมือนการได้รับดอกไม้ แท้จริงแล้วคือการปฏิบัติให้ถึงพร้อมบริบูรณ์ด้วยคุณธรรม คุณงามความดี ในจิตในใจของเรา และนี่คือสิ่งที่ยากกว่าการเขียนชื่อเจ้าคุณ การที่จะเขียนยศว่า “เจ้าคุณ” นั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การที่จะปฏิบัติคุณธรรมให้ถึงพร้อมนั้นยากยิ่งกว่า

คุณธรรมที่ประกอบด้วยจิตบริสุทธิ์ ที่ประกอบด้วยปัญญาที่ประกอบด้วยคุณความดี การทำคุณธรรมนั้นให้เกิดขึ้นและผดุงรักษาไว้ทุกขณะ เป็นหน้าที่ที่ทำได้ยากยิ่งกว่า แต่ถ้าทำได้ก็จะยังประโยชน์ที่สูงกว่าการได้ชื่อว่าเป็นเจ้าคุณ

สุดท้าย หลวงพ่ออมโร กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาที่นี่อีกครั้ง เพราะเป็นที่ที่ท่านได้พบหลวงพ่อปสันโน ท่านเจ้าคุณโพธิญาณวิเทศ ซึ่งขณะนั้นตัวท่านอยู่ในสภาพฮิปปี้ผมยาวที่เพิ่งมาจากชายทะเล เราได้อยู่ด้วยกันที่นี่ (เมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว) แล้วยังได้ไปทำงานร่วมกันที่สหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าอาวาสสองหัว คือ เป็นเจ้าอาวาสคู่กันหลายปีที่วัดป่าอภัยคีรีที่แคลิฟอร์เนีย ครั้งนี้เรายังได้รับเกียรติเป็นเจ้าคุณพร้อมกันด้วย ราวกับถูกผูกไว้ด้วยกัน แยกกันไม่ได้ จะทำอะไรก็ต้องทำพร้อมกัน แล้วอาตมาก็รู้สึกสบายใจมากๆ ที่เป็นเช่นนี้

เมื่อได้เห็นประกาศชื่อเจ้าคุณใหม่ มีชื่อเราสองคนด้วยกัน อาตมาก็คิดว่า...โอ...ได้ทำอะไรด้วยกันกับหลวงพ่อปสันโนอีกแล้ว... รู้สึกสบายใจมาก