posttoday

พุทธานุภาพ เหนือทะเลสาบเชียงแสน ‘วัดป่าญาณสัมปันโน อารยาราม’

29 พฤษภาคม 2559

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพุทธศาสนา จาก เวียงล่ม สู่ พุทธสถาน ญาณสัมปันโน ที่เชียงแสน จ.เชียงราย...

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพุทธศาสนา จาก เวียงล่ม สู่ พุทธสถาน ญาณสัมปันโน ที่เชียงแสน จ.เชียงราย... เป็นเรื่องที่ได้รับการสนใจมาก ดังที่นำมาสู่คำถาม คำอนุโมทนามากมาย จึงต้องนำสู่ตอนที่ ๒ ด้วยคำถามถึงที่ไปที่มาของการสร้างวัดป่าญาณสัมปันโนอารยาราม...

วัดป่าญาณสัมปันโนอารยาราม ได้รับการอนุญาตให้ก่อสร้างเป็นวัดเมื่อปี ๒๕๕๔ ได้รับยกฐานะเป็นวัดในปี ๒๕๕๖ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปีนี้ ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ ๑๑ พ.ค. ๒๕๕๙ นับว่ารวดเร็วมากหากเทียบเคียงกับวัดอื่นๆ ทั้งนี้ โดยมีเหตุผลสำคัญคือ เพื่อให้ทันประกอบการบรรพชา-อุปสมบทในพรรษานี้ จะได้เป็นมหากุศลของชาวโยนกที่ล้มหายตายจากไปด้วยเวียงล่มสลาย วัดวาอารามจมดิ่งลงกลางแผ่นดินที่ยุบตัวจนกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ กลืนกิน เวียง วัด วัง ไปสิ้น ดังข้อความในบันทึกพงศาวดารโยนกที่ว่า...“เมื่อสุริยะอาทิตย์ตกไปแล้ว ก็ได้ยินเสียงเหมือนดั่งแผ่นดินดังสนั่นหวั่นไหว ประดุจว่าเวียงโยนกนครหลวงที่นี้จักเกลื่อนจักพังไปนั้นแล... เสียงกระเทือนเลื่อนลั่นของแผ่นดินดังขึ้นคำรบสอง...คำรบสาม พร้อมกับการยุบจมลงของเวียงโยนก ที่กลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ในชั่วพริบตา ยามนั้น ผู้คนในเวียงโยนกอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประธานก็วินาศฉิบหายตกไปในน้ำนั้นสิ้น...”

นั่นคือส่วนหนึ่งของบันทึกประวัติการเกิดแผ่นดินไหวในอาณาจักรโยนกที่จมหายไป โดยพงศาวดารโยนกบันทึกไว้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในคืนวันเสาร์ เดือน ๗ แรม ๗ ค่ำ พ.ศ. ๑๐๐๓ นับเนื่องถึงปีปัจจุบันตรงกับ ๑๕๕๖ ปีล่วงมาแล้ว

เมื่อวันวางมงคลฤกษ์ เพื่อสร้างพระประธานขนาดหน้าตัก ๙ เมตร สูง ๑๒ เมตร โดยคณะศรัทธาของ เกศินี (ตุ๊ก) จิรวัฒน์วงศ์ ตรงกับวันวิสาขบูชาที่ ๒๐ พ.ค. ซึ่งได้มาบรรจบกับเรื่องพระราชทานวิสุงคามสีมาที่เพิ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงได้มีพิธีอ่านประกาศเพื่อปักหมายเขตให้ถูกต้องโดยนายอำเภอเชียงแสน ต่อเนื่องด้วยศาสนกิจวิสาขบูชาในภาคค่ำ หลังจากที่พระภิกษุ ๙ รูปกระทำสังฆกรรมฟังสวดปาติโมกข์... จึงนับว่าเป็นวันมหามงคลอย่างยิ่ง

เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างสองสมัย จากเวียงโยนกที่ล่มสลายลง ถึงการอุบัติเกิดเป็นวัดป่าญาณสัมปันโนฯ ริมทะเลสาบเชียงแสน อาตมาจึงได้นำคณะชุดเล็กลงเรือเพื่อตรวจสอบพื้นที่ทะเลสาบหรือหนองน้ำขนาดใหญ่... เพื่อจะได้ประกอบศาสนกิจสำคัญบางประการ

การเดินทางไปหาแหล่งที่หมายกลางทะเลสาบที่โผล่เป็นเกาะเล็กๆ กลางน้ำ ที่น่าเชื่อว่าเป็นเขตวัดหรือเวียงแห่งแคว้นโยนกจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง และก็ไม่ผิดหวัง หลังจากที่ได้ขึ้นไปสำรวจเกาะขนาดใหญ่สุดในกลางทะเลสาบ ประกอบศาสนกิจอันถูกต้องตามธรรมแล้ว จึงได้รับทราบเป้าหมายที่ชัดเจนว่า มีวัดร้างในทะเลสาบที่โผล่มาให้เห็นสภาพว่าเป็นวัดหรือมหาวิหารในพุทธศาสนาของชาวชุมชนเวียงโยนกในอดีตอย่างแน่นอน ที่ไม่เคยปรากฏว่าจะมีใครๆ เข้าไป

วันนั้น ซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ วันพระใหญ่ จึงเป็นวันที่เสมือนเปิดพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พุทธสถานกลางทะเลสาบเชียงแสน เพื่อทำพิธีอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพุทธศาสนาที่จมอยู่ใต้น้ำในทะเลสาบ ขึ้นสู่วัดป่าญาณสัมปันโนฯ ที่บัดนี้ ได้ก่อสร้างขึ้นเพื่อรองรับ ...และเพื่อจิตวิญญาณทุกดวงของชาวโยนกจะได้มีส่วนร่วมอนุโมทนาในบุญกุศลจากคณะผู้สร้าง ซึ่งนำโดยคุณหญิงนงเยาว์-อรุณ ชัยเสรี ผู้ถวายที่ดินจำนวนร่วม ๖๐ ไร่ให้ เพื่อสร้างเป็นวัดป่าต้นแบบแห่งการเรียนรู้ในสายพระป่ากรรมฐาน จึงได้อัญเชิญแผ่นอิฐศิลาโบราณใต้น้ำตรงฐานเจดีย์และพระวิหารมาประกอบร่วมเป็นแผ่นอิฐศิลามงคล ณ อุโบสถ วัดป่าญาณสัมปันโนฯ และพระประธานองค์ใหญ่ที่เป็นเขตภาวนา ซึ่งได้ถวายพระนามว่า “พระพุทธมหามงคลเวียงโยนก... ชาวเชียงแสนนครธรรม สร้างถวาย”

ค่ำคืนในวิสาขบูชาปี ๒๕๕๙ นี้ บรรยากาศจึงรื่นเริงมากอย่างน่าแปลกใจ โดยเฉพาะเมื่อแสดงธรรมให้คณะศรัทธาได้สดับบูชาด้านหน้าอุโบสถที่เชื่อมต่อเส้นทางลงทะเลสาบ โดยมีเจตนาพลีบุญอุทิศให้กับเทวดาสัตว์ทั้งหลายที่เป็นญาติมิตรแห่งเวียงโยนก ที่รอคอยมหากุศลมายาวนานมากกว่า ๑,๕๐๐ ปี

(อ่านต่อฉบับวันอาทิตย์ที่ ๕ มิ.ย. ๒๕๕๙)

เจริญพร