posttoday

‘ไม่น่าเชื่อจริงๆ’... อนุสติ...จากนครมุมไบ!

17 เมษายน 2559

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา อาตมาเพิ่งกลับจากการไปร่วมงานฉลอง ๑๒๕ ปี

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา อาตมาเพิ่งกลับจากการไปร่วมงานฉลอง ๑๒๕ ปี ชาตกาลของ ดร.บี อาร์ อัมเบ็ดการ์ เมื่อวันที่ ๑๔ เม.ย.ที่ผ่านมา ณ นครมุมไบ รัฐมหาราษฎร์ อินเดียโดยองค์กร The People’s Improvement Trust (TPIT) ที่ก่อตั้งโดยอัมเบ็ดการ์ ได้ฤกษ์เปิดโครงการก่อสร้างตึกสูง ๑๗ ชั้น ใจกลางนครมุมไบเพื่อเป็นสถานที่ทำงานสานอุดมการณ์อัมเบ็ดการ์ให้เป็นไปตามเจตนาดังคำกล่าวที่ว่า “Cultivation of Mind should be the ultimate aim of human existence”

การวางวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ ขององค์กรนี้ เป็นไปตามคตินิยมวิถีพุทธที่อัมเบ็ดการ์ศรัทธายิ่ง ดังที่ได้นำมหาชนชาวฮินดูในวรรณะจัณฑาลเปลี่ยนศาสนา ประกาศตนเป็นชาวพุทธ... และมุ่งใช้หลักธรรมมาพัฒนาสังคมให้มีจิตวิญญาณแห่งความยุติธรรม มีเสรีภาพ ภราดรภาพ และความเท่าเทียมกัน ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญของอินเดีย ที่ถูกบรรจุหัวใจพระพุทธศาสนาเอาไว้อย่างที่แม้ประเทศพุทธศาสนายังควรนำมาศึกษาในรัฐธรรมนูญวิถีพุทธว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร...

ด้วยความเชื่อของอัมเบ็ดการ์ ที่ว่า ปัญหาของคนยากจน คนด้อยโอกาสทางสังคม จะหมดไป เมื่อทุกคนดำเนินชีวิตตามหลักธรรมในพุทธศาสนาด้วยการพึ่งตน...พึ่งธรรม คือ การศึกษาปฏิบัติธรรมเพื่อพัฒนาชีวิต ยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้น ซึ่งถึงเวลาแล้วที่สังคมฮินดูจะต้องเคารพถึงหลักความยุติธรรมและความเสมอภาค ในฐานะความเป็นมนุษยชาติที่เท่าเทียมกัน... มิได้จำกัดด้วยชนชั้น วรรณะ ชาติ ตระกูล และเพศ... ดังความเชื่อในศาสนาพราหมณ์

บนเวทีแห่งการจัดงานขององค์กร TPIT ในวันดังกล่าว จึงมีบุคคลสำคัญระดับประเทศ ได้แก่ มุขมนตรีของรัฐมหาราษฎร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ฯลฯ... มาร่วมงานในครั้งนี้ โดยอาตมาได้รับนิมนต์ไปเจริญพระพุทธมนต์และแสดงปาฐกถาธรรม พร้อมทั้งกล่าวอำนวยอวยพร... สิ่งหนึ่งที่ประทับใจอาตมาอย่างยิ่ง คือ การขานรับสืบสานอุดมการณ์ของ ดร.บี อาร์ อัมเบ็ดการ์ รัตนบุรุษแห่งชมพูทวีปกึ่งพุทธสมัย ผู้ที่สามารถเข้าไปนั่งอยู่ในจิตวิญญาณของชาวอินเดียทุกชนชั้นได้อย่างสง่างาม แม้กระทั่งชาวฮินดูหรือพราหมณ์ที่เคยรังเกียจพวกอัมเบ็ดการ์

‘ไม่น่าเชื่อจริงๆ’... อนุสติ...จากนครมุมไบ!

 

จึงไม่แปลกที่นักการเมืองใหญ่ระดับมุขมนตรีของรัฐ (Chief Minister) หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของรัฐบาลอินเดีย จะประกาศชื่นชม บูชาคุณของอัมเบ็ดการ์ด้วยจิตคารวะ ที่แสดงออกถึงความ
ประทับใจในปฏิปทาและอุดมการณ์ของบุคคลที่ชาวอินเดียขนานนามว่า The Great Son of India …รัฐบาลแห่งรัฐมหาราษฎร์ อินเดีย ที่มีประชากรมากกว่าร้อยล้านคน จึงพร้อมอนุมัติเงินสนับสนุนถึง ๗๐๐ ล้านรูปี เพื่อการพัฒนาโครงการขององค์กร TPIT อย่างไม่ลังเล และจะเร่งดำเนินการเติมเต็มฝันอัมเบ็ดการ์ให้สัมฤทธิผล

การกล่าวชื่นชมประวัติและผลงานของอัมเบ็ดการ์ว่าเป็นบุคคลสำคัญระดับโลก แสดงให้เห็นถึงอารยธรรมของชาวชมพูทวีปที่ไม่เคยเลือนหาย อันเป็นไปตามหลักอปจายนธรรม... ที่น่านำมาเป็นกรณีศึกษาอย่างยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับพฤติกรรมบุคคลในสังคมบ้านเรา ที่นับวันความอ่อนน้อมถ่อมตน การเคารพผู้ใหญ่ การเชิดชูผู้มีพระคุณต่อสังคมประเทศชาติ เริ่มเจือจางเลือนหายไป ด้วยอำนาจไฟโลภะ ที่แปลงค่าเป็นไฟโทสะ สร้างอำนาจมานะ ทิฏฐิ เข้าครอบครองจิตใจ จนภาครับรู้ของสังคมล้มเหลวจากมนุษยธรรม อันน่าวิตกอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปรากฏการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นในเด็กๆ เยาวชนทุกครัวเรือน...

ไม่น่าเชื่อว่า ไฟริษยา อาฆาต พยาบาท กลับถูกจุดให้ลุกโพลงในสังคมที่เคยสงบร่มเย็น อุดมด้วยสมณพราหมณ์ผู้ทรงคุณธรรม ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่า มันล้มเหลวไปขนาดนั้นได้อย่างไร แม้ในหมู่สมณพราหมณ์ ไม่น่าเชื่อจริงๆ!!

เจริญพร