posttoday

กันเพื่อนสาว "วัฒนา" เป็นพยาน ไม่พบเชื่อมโยงวางบึ้ม

19 มิถุนายน 2560

ตำรวจเตรียมรับตัว "วัฒนา" มือวางบึ้ม ตั้งโต๊ะแถลง 20 มิ.ย.นี้ เจ้าหน้าที่กันเพื่อนสาวคนสนิทเป็นพยาน ยังไม่พบพัวพันเหตุระเบิด

ตำรวจเตรียมรับตัว "วัฒนา" มือวางบึ้ม ตั้งโต๊ะแถลง 20 มิ.ย.นี้ เจ้าหน้าที่กันเพื่อนสาวคนสนิทเป็นพยาน ยังไม่พบพัวพันเหตุระเบิด

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสายวันที่ 20 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ทหาร นำโดย พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะนำตัว นายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62  ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิด โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าฯ และอีกหลายจุดในกทม. ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา   ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ด้านความมั่นคง หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีระเบิดฯ พร้อมคณะชุดสืบสวนสอบสวนรอรับตัว

ตามกำหนดการทันทีที่เจ้าหน้าที่ทหารส่งมอบตัว จะนำนายวัฒนา ไปที่ห้องกระจกชั้น 2 อาคาร 1 ตร. เพื่อแสดงหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ตรวจร่างกายโดยแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ  ก่อนทำสอบสวนเบื้องต้น  พิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อทำทะเบียนประวัติผู้ต้องหา และจะนำตัวไปแถลงข่าวที่ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 ตร.

ทั้งนี้ในส่วนของตำรวจจะนำแถลง โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ พล.ต.อ.ศรีวราห์ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.น.)เป็นตัวแทนฝ่ายสืบสวน พล.ต.วิจารณ์ และพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานพิเศษ ฝ่ายกฎหมาย คสช. ส่วนนายวัฒนา จะร่วมโต๊ะแถลง ตอบแถลงตอบคำถามสื่อมวลชนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนายวัฒนา ส่วนจะนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดต่างๆหรือไม่ขึ้นอยู่กับเวลาและความเหมาะสมอื่นๆ

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า เพื่อนหญิงคนสนิท ของนายวัฒนา พบว่าแม้มีพฤติกรรมฝักใฝ่ ทางการเมืองฝั่งหนึ่ง แต่จากการสืบสวนสอบสวนจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุของนายวัฒนา  แต่ก็พบว่าทุกครั้งที่จะไปก่อเหตุ นายวัฒนาจะเดินทางไปพบ หญิงคนนี้ ที่คอนโดมิเนียมย่านนนทบุรีทุกครั้ง  เบื้องต้นเจ้าจะปล่อยตัวหญิงคนนี้ไปก่อนและกันเป็นพยาน เนื่องจากยังพบว่ามีความผิด โดยชุดสืบสวนสอบสวนเชื่อว่านายวัฒนา ทำเพียงคนเดียว โดยไม่มีคนอื่นร่วมรู้เห็น เป็นความผิดปัจเจกบุคคล