posttoday

"ดีเจเชาเชา"เข้าให้ปากคำขอโทษแม่ผู้ตาย-มอบเงินช่วยเหลือ

04 พฤษภาคม 2560

ดีเจเชาเชาเข้าให้ปากคำคดีขับรถชนจักรยานยนต์ พร้อมขอโทษแม่ผู้ตาย-มอบเงินช่วยเหลือ ยันไม่ได้หลบหนี

ดีเจเชาเชาเข้าให้ปากคำคดีขับรถชนจักรยานยนต์ พร้อมขอโทษแม่ผู้ตาย-มอบเงินช่วยเหลือ ยันไม่ได้หลบหนี

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. เวลา 17.00 น. นายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม หรือ ดีเจเชาเชา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อให้ปากคำกรณี ขับรถยนต์ เลกซัส ชนกับรถจักรยานยนต์ ของนายจิรภาษ ธงอาสา อายุ 18 ปี บริเวณถนนตัดใหม่วัชรพล - สุขาภิบาล 5  จนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อค่ำ วันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายชวลิต กล่าวว่า ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลทางคดี แต่จะมีการแถลงความชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ตึกแกรมมี่ เวลา  11:00 น. วันที่ 5 พ.ค. ส่วนสาเหตุที่ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการเฉี่ยวชนคู่กรณีนั้น เพราะในวันเกิดเหตุ ขับรถมาตามเส้นทาง และเห็นกลุ่มจักรยานยนต์จำนวนมาก ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดอย่างรวดเร็ว ทำให้ตกใจ แต่ก็ได้ยืนให้ความช่วยเหลือคู่กรณีไม่ได้หลบหนี

ด้านความรับผิดชอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยินดีรับผิดชอบในทุกกรณี โดยเบื้องต้นจะมอบเงินช่วยเหลือ 30,000 บาท และขอเป็นเจ้าภาพจัดงานศพในวันที่ 5 พ.ค.ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงาน นายชวลิต ได้ไหว้ขอโทษ มารดาผู้เสียชีวิต พร้อมมอบเงินช่วยเหลือและยืนยันว่า เงินจำนวนนี้เป็นเงินช่วยเหลือตามมนุษยธรรม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี

ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า ทนายความ นายชวลิต ได้นำรถยนต์เลกซัส มาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นตรวจสอบรถพบว่า มีร่องรอยของการชนที่บริเวณกระจังหน้า ป้ายทะเบียน และบริเวณกันชนด้านขวาของตัวรถซึ่งน่าจะตรงกับป้ายทะเบียนท้ายจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้น ในบันทึกประจำวันระบุเพียงว่า เกิดเหตุ โดยมี นายชวลิต เป็นคู่กรณีอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเท่านั้น

หลังจากเกิดเหตุ นายชวลิต ก็อยู่กับเจ้าหน้าที่ 2-3 ชั่วโมง และให้การในวันเกิดเหตุเพียงว่า รถจักรยานยนต์เกิดเกี่ยวกัน และกระเด็นมาโดนรถ ก่อนที่จะมายอมรับในภายหลังว่า เป็นคนขับรถชน

อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับพนักงานสอบสวนได้รับการยืนยันว่า นายชวลิตไม่ได้อยู่ในอาการมึนเมา จึงไม่จำเป็นต้องตรวจแอลกอฮอล์  และยังไม่ได้มีการสอบปากคำที่เป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้นจึงจำเป็นที่ นายชวลิตต้องมาให้ปากคำ

"ขณะนี้ยังเหลือกล้องวงจรปิดจากเจ้าหน้าที่ กทม.อีกตัวหนึ่งซึ่งคาดว่า จะเป็นมุมที่จะเห็นได้ชัดเจนกว่า ในวันเกิดเหตุเป็นอย่างไร"พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ กล่าว

ตอนนี้ได้ทำการสอบพยานไปแล้ว 2 ปาก คือ มารดาผู้เสียชีวิต และเพื่อนของผู้ตาย โดยจากคำให้การของเพื่อนผู้ตายให้การว่า ในวันเกิดเหตุ ผู้ตายพร้อมเพื่อนอีกหลายคนไปขี่รถเล่น และได้ไปจอดพักที่บริเวณใต้สะพานลอย ถนนวัชรพล สุขาภิบาล 5 ตัดใหม่ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะมีวัยรุ่นอีกกลุ่มขว้างก้อนหินลงมากจากสะพานลอย จึบรีบขี่รถออกมาจนทำให้เกิดเหตุดังกล่าว

พ.ต.อ.ธนกรณฑ์  กล่าว เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เห็นว่า มีหลายอย่างที่ขัดต่อคำให้การ เพราะการที่จอดรถใต้สะพานและมีคนโยนก่อนหินลงมาจากสะพานนั้น จะต้องมีการปาก้อนหินในวิถีโค้งเท่านั้นจึงจะโดน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนหน้าเกิดเหตุ พบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มของผู้ตาย ได้นัดรวมกลุ่มกับวัยรุ่นอีกจำนวนหนึ่ง และยังมีลักษณะของการแข่งรถอีกด้วย เนื่องจากมีการปล่อยรถออกไปเป็นคู่ๆ และขับกลับมาเป็นในลักษณะนี้อยู่ 2-3 รอบ

"พนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะถ้าปรากฏว่า มีการแข่งรถกันจริง ก็จะมีผลต่อการพิจารณาคดีด้วย เพราะการแข่งรถจะต้องมีการใช้ความเร็ว และอาจจะต้องมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะต่อกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิตด้วย แต่ในส่วนของผู้เสียชีวิตนั้น คดีอาญานี้จะจบได้เพราะถือว่า ผู้ก่อเหตุ ได้เสียชีวิตไปแล้ว จะเป็นคดีที่ไม่เกี่ยวกับของ ดีเจเชาเชา"พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ กล่าว

ภาพจาก www.fm91bkk.com