ตำรวจเร่งประสานต่างประเทศล่าตัว "โกตี๋" ย้ำไม่มีจัดฉากจับอาวุธ

เมื่อวันที่ 20 .ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด พื้นที่ 7 จังหวัด ตรวจยึดอาวุธสงครามเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ได้เป็นจำนวนมาก ว่า กลุ่มนี้มีการเคลื่อนไหวอย่างมากในสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา มีการระดมคน อาวุธ และเงินทุนจำนวนมาก เพื่อใช้ในการก่อความไม่สงบ ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการบูรณาการกันในหลายหน่วยงาน โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงไปอำนวยการการปฏิบัติเอง

ส่วนที่มีการมองว่ากรณีเป็นการจัดฉากโดยเจ้าหน้าที่รัฐ  อยากให้พิจารณาจากของกลางอาวุธสงครามที่ยึดได้ และบุคคลต้องสงสัย 9 ราย ที่ถูกควบคุมตัว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ระหว่างการซักถาม โดยผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวยอมรับว่ามีการสะสมอาวุธดังกล่าวเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ขณะนี้การตรวจค้นยังดำเนินการอยู่ซึ่งจะมีการขยายผลเพิ่มเติมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบความเชื่อมโยงถึงท่อน้ำเลี้ยง ด้วย

"กรณีนี้เรามีพยานหลักฐาน มีคำให้การซัดทอดของผู้ต้องสงสัย เชื่อมโยงกับข้อมูลด้านการข่าวสอดคล้องกัน เจ้าหน้าที่รัฐคงไม่ปรักปรำใครเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ คงไม่ใช่แบบนั้น ส่วนการดำเนินคดีขณะนี้ผู้ต้องสงสัยอยู่ในการควบคุมตัวของทหาร หากมีการส่งตัวมาก็มีการสอบสวนหากเข้าข้อกฎหมาย เข้าองค์ประกอบความผิดก็สามารถดำเนินคดีได้อยู่แล้ว ทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส และเปิดเผยได้ในส่วนที่ไม่กระทบต่อการสอบสวนเพื่อตอบข้อสงสัยของประชาชนได้"รองโฆษกตร. กล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า บุคคลกลุ่มนี้จากการข่าวมีการปลุกระดมทางโซเชียลมีเดีย ทางสื่อธรรมดาด้วย พยายามปลุกระดมเพื่อลดความน่าเชื่อถือของคสช.และรัฐบาล มีความเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารผู้นำประเทศ รวมทั้งบุคคลสำคัญ เชื่อมโยงกับการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ทำให้การตรวจค้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งตำรวจมีการสืบสวน เก็บรวบรวมพยานหลักฐานตลอดมา ทุกอย่างมีความเชื่อมโยงกัน ทำให้เชื่อว่ามีความพยายามที่จะทำให้เกิดเหตุขึ้นจริง จนเป็นที่มาของปฏิบัติการในครั้งนี้

ทั้งนี้ จะตรวจสอบความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์อาวุธปืนหายภายในค่าย ตชด.ที่ จ.อุดรธานี เมื่อปี 2554 ด้วยหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้มีการลงโทษให้ออกเจ้าหน้าที่หลายราย รวมทั้งมีการดำเนินคดีอาญาด้วย นอกจากนี้จะตรวจสอบความเชื่อมโยงกับเหตุวินาศกรรมในพื้นที่ กทม.ก่อนหน้านี้ด้วย

ส่วนการติดตามตัวนายวุฒิพงศ์ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหาข่าวว่าอยู่ในประเทศใด ไม่ขอยืนยันว่าอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ กำลังดำเนินการเพื่อให้มีการส่งตัวมาดำเนินคดี อาจมีอุปสรรคในการประสานงานบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่ขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล เพราะคดีมีอายุความอยู่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามใช้ทุกช่องทางในการประสานงาน ทั้งความสัมพันธ์ระดับรัฐบาล และระดับเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และจนถึงขณะนี้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 9 ราย ยอมรับว่าจะนำอาวุธไปสังหารผู้นำประเทศด้วยหรือไม่ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ขณะนี้กำลังซักถามอยู่ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด โดยปกติเจ้าหน้าที่จะมีการซักถามทุกประเด็นอยู่แล้ว โดยทั้ง 9 คน ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อทางการ เพื่อนำไปขยายผลต่อ

รองโฆษกตร.กล่าวว่า การข่าวเรื่องลอบสังหารผู้นำประเทศมามาระยะหนึ่ง มองว่ากลุ่มฝ่ายตรงข้ามต้องการดิสเครดิตของรัฐบาลมาตลอด การกระทำเช่นนี้ก็เช่นกันมีเป้าหมายอย่างนั้น รวมถึงกรณีที่พบว่ากลุ่มนี้ มีความพยายามสร้างความรุนแรงเป็นมือที่ 3 ในระหว่างเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการปิดล้อมวัดพระธรรมกาย ก็เชื่อว่ามีเป้าหมายเพื่อดิสเครดิสรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 

"ฝ่ายความมั่นคงติดตามข่าวและยืนยันได้ว่ามีความพยายามจริง การโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียข่มขู่ก็เป็นหลักฐานอย่างหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะทำหลักฐานที่พบว่ากลุ่มนี้มีความพยายามก่อเหตุมาชี้แจงต่อสาธารณชน"พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะจับกุมกลุ่มนี้ได้ แต่ยังวางใจไม่ได้ต้องป้องกันและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเราไม่ประมาท ขณะนี้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มนี้เพื่อหาความเชื่่อมโยง รวมถึงสืบสวนสอบสวนว่ามีคนในเครื่องแบบ คนมีสีหรือตำรวจทหารเข้าไปสนับสนุนหรือไม่ อย่างไรก็ตามการจับกุมอาวุธครั้งนี้ไม่ใช่การจัดฉาก และขอให้เครดิตแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงด้วย