กองปราบจับ "ผู้พันตึ๋ง" ละเมิดข้อบังคับพักโทษ

ตำรวจกองปราบจับกุม "ผู้พันตึ๋ง" ละเมิดข้อบังคับพักโทษออกนอกพื้นที่ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมข่มขู่เรียกรับเงิน

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม (รรท.ผบก.ป.) สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม (ผกก. 2 บก.ป.) นำกำลังชุดสืบสวนกว่า 10 นายบุกจู่โจมเข้าจับกุมตัว พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ ผู้พันตึ๋ง ผู้ต้องหาเด็ดขาดในคดีฆาตกรรม นายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เมื่อปี 2544 และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการได้รับพิจารณาพักโทษจากกรมราชทัณฑ์ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านบดินทรรักษา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมได้ประสานงานมายัง พล.ต.ต.ชาญ ให้จัดกำลังชุดสืบสวน ออกติดตามจับกุมตัว พ.ต.เฉลิมชัย เป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากตรวจสอบพบว่า พ.ต.เฉลิมชัย ละเมิดข้อบังคับในการพักโทษของกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากผ่าฝืนเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนหลายครั้ง

นอกจากนี้กระทรวงยุติธรรมยังได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของ พ.ต.เฉลิมชัย ว่ามีพฤติกรรมในการข่มขู่เรียกรับเงินจากผู้เสียหายใน จ.จันทบุรี ซึ่งพบว่ามีมูลเหตุที่สามารถรับฟังได้ในเบื้องต้นว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง

ทั้งนี้ นายชาญเชาว์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม จึงมีคำสั่งให้รองปลัดฯที่เกี่ยวข้องดำเนินการประสานงานให้ตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัว พ.ต.เฉลิมไชย กลับมาควบคุมตัวต่อที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ฐานละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับการพักโทษตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ

ทั้งนี้ พ.ต.เฉลิมชัย เป็นผู้ต้องขังคดีฆาตกรรม นายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้รับการพิจารณาพักการลงโทษ และถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำกลางบางขวาง ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2558 โดย พ.ต.เฉลิมชัย เป็นผู้ต้องขังโทษประหารชีวิต แต่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษมาแล้ว 4 ครั้ง เหลือโทษ 17 ปี 24 วัน ทั้งนี้ถูกจำคุกมาแล้ว 14 ปี และได้รับการพักการลงโทษตามเงื่อนไข คือเป็นผู้ต้องขังชั้นเยี่ยม ได้รับโทษมาแล้วเกิน 2 ใน 3 เหลือระยะเวลาพักการลงโทษ 2 ปี 9 เดือน 15 วัน โดยที่ พ.ต.เฉลิมชัย ต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ จนครบกำหนดเวลาคุมประพฤติในช่วงพักการลงโทษที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนนทบุรี สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิตฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเห็นตามศาลชั้นต้น และในปี 2549 ศาลฎีกามีคำพิพากษาสิ้นสุดยืนตามศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต