posttoday

รวบชายญี่ปุ่นหนีคดีปั่นหุ้นกว่า4พันลบ.กบดานไทย

29 กรกฎาคม 2559

ผบ.ตร. แถลงตำรวจ ตม. จับชายชาวญี่ปุ่น หนีคดีปั่นหุ้นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ศัลยกรรมใบหน้า หนีกบดานไทยนับ10ปี

ผบ.ตร. แถลงตำรวจ ตม. จับชายชาวญี่ปุ่น หนีคดีปั่นหุ้นมูลค่ากว่า 4,000  ล้านบาท ศัลยกรรมใบหน้า หนีกบดานไทยนับ10ปี

เวลา 10.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. และฝ่ายสืบสวนสตม. ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัว นายยาซูโอะ ทะซึบากิ อายุ 62 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการญี่ปุ่น ในความผิดเกี่ยวกับฉ้อโกงตลาดหลักทรัพย์และอาชญากรรมทางการเงินข้ามชาติ โดยเข้าควบคุมตัวได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาย่านพระราม 2 กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า นายยาซูโอะ ผู้ต้องหาเคยเป็นนักธุรกิจและทนายชื่อดังที่ประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมกับพวกทำการปั่นหุ้นของบริษัท OHT ซึ่งทำงานอยู่ ในช่วงระหว่างปี 2543-2548 ปั่นหุ้นจากราคา 2 แสนเยนต่อหุ้น (ราว 6 หมื่นบาท) เป็นราคา 1.2-1.5 ล้านเยนต่อหุ้น (ราว 6 แสนบาท) จากนั้นได้เทขาย ทำให้เกิดความเสียหายต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นในวงกว้าง โดยมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.2 หมื่นล้านเยน (ราว 4,000 ล้านบาท) หลังจากนั้นนายยาซูโอะได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทยเมื่อปี 2548 และอาศัยอยู่ราว 11 ปีกระทั่งถูกจับกุม

ทั้งนี้ ตำรวจสตม.จับกุมได้ขณะที่นายยาซูโอะมาทำการต่อวีซ่าประเภทใช้ชีวิตบั้นปลาย แต่พบว่าใบหน้าเปลี่ยนไปจากรูปในหนังสือเดินทาง ตำรวจจึงตรวจสอบและพบว่ามีหมายจับของตำรวจญี่ปุ่นจึงเข้าควบคุมตัวเอาไว้ เบื้องต้นสอบสวนนายยาซูโอะรับว่าเป็นบุคคลที่ตรงตามหมายจับจริง ส่วนการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงใบหน้าไม่ขอเปิดเผย แต่ทั้งนี้ ตำรวจได้ข้อมูลมาจากญี่ปุ่นว่า ผู้ต้องหาได้ศัลยกรรมใบหน้าเพื่อหนีการติดตามตัวด้วย

รวบชายญี่ปุ่นหนีคดีปั่นหุ้นกว่า4พันลบ.กบดานไทย

 

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ทางการญี่ปุ่นต้องการตัวมาก ส่วนจะมีการศัลยกรรมในประเทศไทยเพื่อเปลี่ยนแปลงใบหน้าหรือไม่นั้น ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ แต่ทั้งนีก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน โดยตลอดเวลาที่ผู้ต้องหามาพำนักในประเทศไทยจะเก็บตัวเงียบ และเปิดบัญชีการเงินต่างๆ รวมถึงเบอร์โทรศัพท์มือถือในนามชื่อของคนไทย ซึ่งตำรวจจะตรวจสอบเช่นกันว่ามีส่วนเชื่อมโยงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวน่าเป็นเคสแรกที่มีการเปลี่ยนแปลงใบหน้าเพื่อหนีคดี และตำรวจไทยจับกุมตัวได้

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนหน้าที่นายยาซูโอะจะถูกควบคุมตัว ได้เช่าคอนโดมิเนียมอยู่ที่ถนนสุขุมวิทเดือนละกว่า 1 แสนบาท ก่อนที่จะย้ายมาพักอาศัยในบ้านพักย่านมหาชัย พระราม 2 โดยไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ ทั้งนี้ ตำรวจได้เตรียมประสานสถานทูตญี่ปุ่นเพื่อส่งตัวดำเนินคดีในขั้นตอนต่อไป