ครอบครัวแถลงครบ1ปีเสี่ยชูวงษ์เสียชีวิตขอตร.เร่งคดี

ตัวแทนครอบครัวและทนายความ เสี่ยชูวงษ์ แถลงครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิต ขอตำรวจเร่งรัดคดี ขณะที่กองปราบระบุภายใน 1 เดือน สรุปสำนวนส่งอัยการได้

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง พร้อมด้วย นางสาววันเพ็ญ ธรธรรมสิริ  ภรรยาและพี่สาว นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติระหว่างซอย 48-50 เขตประเวศ ได้เปิดแถลงข่าวกรณีความคืบหน้าและข้อสงสัยในการดำเนินคดีการโอนหุ้นและสาเหตุการเสียชีวิตของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หลังครบรอบ 1 ปี ของการเสียชีวิตของนักธุรกิจรับเหมา แต่ขณะนี้การดำเนินคดีของทั้งสองคดียังคงไม่มีความคืบหน้าในการนำตัวผู้กระทำผิดที่ชัดเจนมาดำเนินคดี

ครอบครัวนายชูวงษ์ ระบุว่า ต้องการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดการดำเนินการของทั้ง 2 คดี โดยในส่วนของการโอนหุ้นได้รับทราบว่าทางพนักสอบสวนได้มีการส่งสำนวนให้พนักงานอัยการแล้ว แต่ทางพนักงานอัยการมีการตีกลับสำนวนเพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหลักฐานที่ต้องติดต่อกับหน่วยงานราชการ ทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าปกติ ทำให้ครบกำหนดฝากขัง 4 ผู้ต้องหา และ ผู้ต้องหาในคดีพ้นอำนาจศาลไปในช่วงปลายปี 2558 แต่ทางครอบครับมั่นใจว่า พยานหลักฐานที่มีในสำนวนทั้งหมดตอนนี้ สามารถเอาผิดกับผู้กระทำผิดได้ ทั้งคดีการโอนหุ้นกว่า 300 ล้าน และคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์

นางสาววันเพ็ญ เผยว่าตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา มีการพยายามขอนัดเจรจาไกล่เกลี่ยผ่าน ผู้ใหญ่ที่ครอบเคารพท่านหนึ่ง แต่ตนเองไม่ตกลงเจรจา และตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา ทางครอบครัวยังถูกคุกคามในรูปแบบต่างๆ เช่น มีเสียงดังคล้ายอาวุธปืนดังติดต่อกันหลายนัด บริเวณละแวกบ้านพัก รวมถึงมีคนขับรถติดตาม และมีคนแปลกหน้ามาขอพบครอบครัวที่บ้าน แต่ทางครอบครัวไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากบุคคลใด พร้อมกันนี้ยังขอฝากถึงสื่อมวลชนในการเขียนถึงผู้ต้องหาในคดีบางรายว่า เป็นสาวคนสนิทกับนายชูวงษ์ ทางครอบครัวขอให้พิจารณาให้ดีอีกครั้งว่า ผู้ต้องหาสาวคนดังกล่าว มีความสนิทกับผู้ใดกันแน่ เพราะทางครอบครัวมีความเชื่อมั่นว่านายชูวงษ์ไม่มีการออกนอกลู่นอกทางแน่นอน

พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคัีบกดารกองปราบปราม (รรท.ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ หลังทางครอบครัวของนายชูวงษ์ได้ออกมาแถลงการณ์ว่าคดีครบรอบ1 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้านั้น ขอชี้แจ้งว่า คดีของนายชูวงษ์นั้นต้องแยกออกเป็นสองส่วน ในส่วนแรกคือคดีโอนหุ้น ซึ่งต้องนี้ทางพนักงานสอบสวนกก.1บก.ป.ได้ทำการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งส่งสำนวนให้ทางอัยการพิจารณาแล้วและอยู่ระหว่างการขั้นตอนพิจารณาของทางอัยการ

ในส่วนคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์นั้น ทางกองปราบปรามได้รับโอนคดีมาจากสน.อุดมสุข ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง พยานแวดล้อม รวมทั้งได้นำผู้เชี่ยวชาญทางด้านยานยนต์มาทำการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริง อีกทั้งเมื่อได้ผลจำลองเหตุการณ์แล้วนั้นต้องมาดูในเรื่องความเห็นกับทางแพทย์ว่า ผลจำลองดังกล่าวสามารถทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ต้องใช้เวลาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง รัดกุม และตอบข้อสงสัยได้ เพราะคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์เป็นคดีที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ ยืนยันว่าทางกองปราบปรามไม่ได้นิ่งนอนใจอะไร อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าราวกลางเดือนก.ค.จะสามารถสรุปสำนวนได้

สอดคล้องกับพ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม (ผกก.1บก.ป.) ระบุว่า ขณะนี้ในส่วนสำนวนการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ จะใช้เวลาในการสรุปสำนวนไม่เกิน 1 เดือน ส่วนคดีการโอนหุ้นขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้สรุปสำนวนพร้อมหลักฐานใหม่ที่พนักงานอัยการมีคำสั่งให้หาเพิ่มไปแล้ว คาดว่าพนักงานอัยการจะใช้เวลาในการพิจารณา 1-2 เดือนนี้