posttoday

ทายาทเครื่องดื่มดังเบี้ยวพบอัยการคดีขับรถชนตำรวจ

25 พฤษภาคม 2559

อัยการให้โอกาสทายาทเครื่องดื่มชูอีก 1 ครั้ง หากไม่มาตามนัดจะประสานพนักงานสอบสวนของศาลออกหมายจับในคดีขับเฟอร์รารี่ชนตำรวจเสียชีวิต

อัยการให้โอกาสทายาทเครื่องดื่มชูอีก 1 ครั้ง หากไม่มาตามนัดจะประสานพนักงานสอบสวนของศาลออกหมายจับในคดีขับเฟอร์รารี่ชนตำรวจเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่สำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 53 นายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ กล่าวถึงการนัดส่งตัวนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา อายุ 31 ปี ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่ป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิต บริเวณถ.สุขุมวิท เมื่อปี 2555 ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้แจ้งให้นายวรยุทธ มาพบอัยการวันนี้ว่า จนถึงขณะนี้ นายวรยุทธ หรือทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อกับอัยการว่าจะขอเลื่อนการเข้าพบ หรือจะมาพบในเวลาใด อย่างไรก็ดีการเข้าพบอัยการต้องไม่เกินเวลาทำการในเวลา 16.00 น.

นายสุทธิ กล่าวอีกว่า หากวันนี้ นายวรยุทธ ไม่เดินทางมาพบอัยการตามนัดโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องใดๆ อัยการจะประสานไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่ออีกครั้งเพื่อสอบถามถึงมูลเหตุที่ยังไม่สามารถติดตามตัวนายวรยุทธมาได้ และจะให้พนักงานสอบสวนแจ้งนัดการส่งตัวกับนายวรยุทธ ให้มาพบอัยการอีกครั้ง แต่ถ้ายังไม่เดินทางเข้าพบและไม่มีการแจ้งเหตุขัดข้องอีก ซึ่งลักษณะเข้าข่ายประวิงเวลา ทำให้การส่งฟ้องล่าช้าออกไปโดยไม่มีเหตุจำเป็นที่สมควร อัยการจะประสานให้พนักงานสอบ ขอศาลออกหมายจับนายวรยุทธ ผู้ต้องหา เพื่อให้ได้ตัวมาฟ้อง โดยอัยการจะไม่ปล่อยเวลาให้ต้องเลื่อนคดีไป จนทำให้คดีขาดอายุความ ซึ่งอายุความสูงสุด 15 ปี

อย่างไรก็ดี หากระหว่างนี้ ทนายความของนายวรยุทธจะเดินทางมาขอเลื่อนการส่งตัวฟ้อง ก็สามารถทำได้แต่ต้องมีเหตุอันควรจำเป็นและสุดวิสัยจริงๆ เช่น การผ่าตัดกระทันหันอย่างไส้ติ่ง หรือ การเจ็บป่วยร้ายแรง อย่างมะเร็ง แต่ก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่เชื่อถือได้จากโรงพยาบาลมายืนยัน

นายสุทธิ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาญาติของผู้เสียชีวิต ได้ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้พิจารณาดูว่ามีข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์อีกหรือไม่ โดยตนเพิ่งได้รับหนังสือเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตนกำลังพิจารณา แต่เพื่อไม่ให้เป็นการล่าช้า อัยการยังยืนยันที่จะยื่นฟ้องตามคำสั่งเดิมใน 2 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงความตาย  และไม่หยุดรถช่วยเหลือก่อน

หากเป็นเช่นนี้ญาติสามารถยื่นคำร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้หรือไม่ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาฯ กล่าวว่า อาจจะทำไม่ได้ เพราะปรากฎข้อเท็จจริงว่าญาติผู้ตายได้เซ็นสัญญายอมความต่อหน้าพนักงานสอบสวนไปแล้ว เมื่อครั้งที่มีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย

เมื่อถามว่าอัยการจะให้เวลาพนักงานสอบสวนอีกเท่าไหร่ในการแจ้งนัดให้นายวรยุทธมาพบอัยการอีกครั้งที่ 2 นายสุทธิ กล่าวว่า ในทางปฏิบัติจะให้เวลาพนักงานสอบสวน 15-20 วัน แต่ต้องเข้าใจว่าพนักงานสอบสวนต้องให้ฝ่ายผู้ต้องหาเตรียมตัวด้วย ซึ่งระยะเวลาทั้งหมดจะไม่เกิน 30 วัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเหตุจำเป็นด้วย อย่างไรก็ดี ถ้าผู้ต้องหาไม่มาโดยไม่แจ้งเหตุอีก อัยการคงมองเป็นเหตุอื่นไม่ได้นอกจากการประวิงเวลา ซึ่งต้องออกหมายจับ เพราะขณะนี้ตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในการควบคุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ