posttoday

แก๊งลูกตำรวจรุมฆ่าหนุ่มพิการเครียดไม่เคยติดคุกมาก่อน

03 พฤษภาคม 2559

พนักงานสอบสวนคุมแก๊งลูกตำรวจรุมฆ่าหนุ่มพิการขายขนมปังไปฝากขังศาลอาญา ผู้ต้องหาเครียดไม่เคยติดคุกมาก่อน

พนักงานสอบสวนคุมแก๊งลูกตำรวจรุมฆ่าหนุ่มพิการขายขนมปังไปฝากขังศาลอาญา ผู้ต้องหาเครียดไม่เคยติดคุกมาก่อน
         
พ.ต.ท.ประทวน แมลงทับ สารวัตรสอบสวน สน.โชคชัย เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะนำกลุ่มผู้ต้องหาชาย6คนที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดรุมทำร้ายร่างกาย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 36 ปี ชายขาพิการอาชีพส่งขนมปังเสียชีวิตหน้าร้านขายขนมปัง ซอยโชคชัย 4 แยก 69 ไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในวันนี้ เวลา 10.00น. ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งหมดถูกควบคุมตัวที่ สน.โชคชัย และมีอาการเครียดเพราะไม่เคยติดคุกมาก่อน

สำหรับผู้ต้องหา6คน ประกอบด้วย นายอัครเดช หรืออั๋น ทัศนะ อายุ 22 ปี นายมนต์มนัส หรือเต้ย แสงโพธิ์ อายุ 22 ปี นายอรินทร์ หรือเตอร์ ยศพงศ์อนันต์ อายุ 20 ปี นายเมฆ หรือเมฆ พลไกรษร อายุ 19 ปี นายธีรพล ยศพงศ์อนันต์ อายุ 21 ปี และนายเบียร์ อายุ 18 ปี ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหา 4 คนที่อ้างว่าเป็นลูกของข้าราชการตำรวจ

พ.ต.ท.ประทวน กล่าวว่าคดีนี้พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเพราะเกรงว่าจะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน ขณะนี้ขั้นตอนการสอบสวนได้สอบพยาน และอยู่ระหว่างรวบรวมภาพวงจรปิดเพื่อหาว่าใครมีส่วนลงมืออะไรบ้าง เพื่อนำไปรวมในสำนวนคดี ส่วนนายพีรพล ยศพงศ์อนันต์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาอีกรายยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ได้อายัดตัวไว้แล้ว และมีตำรวจเฝ้าเวรตลอดเวลาอีกด้วย

"อยากจะสะท้อนสังคม เพราะจากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุอายุยังอยู่ในช่วงเยาวชนส่วนมากพ่อแม่แยกทางกัน ทำให้ขาดความอบอุ่น บ้างไม่ได้เรียนหนังสือ จึงไปเข้ากลุ่มกันออกนอกลู่นอกทาง"พ.ต.ท.ประทวนกล่าว

ขณะที่ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า คดียังไม่สมบูรณ์ ยังมีผู้หญิงที่จะต้องถูกดำเนินคดีอีก 1 คน ที่ปรากฎอยู่ในคลิป มีลักษณะยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำผิด ทั้งนี้หลังจากงานศพนายสมเกียรติ จะพาญาติคนตายไปแจ้งความ ที่ สน.โชคชัยอีกครั้ง เพื่อเอาผิดกับหญิงคนดังกล่าวในข้อหา ยุยงส่งเสริม ให้ผู้อื่นกระทำผิด ตามมาตรา 84 ผู้ใดก่อให้บุคคลอื่นกระทําความผิด ไม่ว่าด้วยการใช้ บงคับ ขู่เข็ญ จ้าง วาน หรือยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใด ผู้นั้นเป็นผู้ใช้ ให้กระทําความผิด ถ้าผู้ถูกใช้ได้กระทําความผิดนั้น ผู้ใช้ต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการ อีกด้วยในภายหลังต่อไป