posttoday

รวบแล้ว!แก๊งแท็กซี่ย่านรังสิตปล้นสามีภรรยาชาวเมียนมา

29 พฤศจิกายน 2558

ตำรวจปทุมฯใช้เวลาไม่ถึง 24 ชม. รวบยกแก๊งแท็กซี่ปล้นทรัพย์สามีภรรยาชาวเมียนมา หลังหนีกบดานเพชรบูรณ์

ตำรวจปทุมฯใช้เวลาไม่ถึง 24 ชม. รวบยกแก๊งแท็กซี่ปล้นทรัพย์สามีภรรยาชาวเมียนมา หลังหนีกบดานเพชรบูรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ หลังเกิดเหตุแก๊งแท็กซี่ปล้นทรัพย์ผู้โดยสารผัวเมียชาวพม่า ที่เรียกใช้บริการรถหน้าห้างสรรพสินค้าย่านรังสิต เมื่อวันที่ 28 พ.ย. มาปล่อยทิ้งไว้ที่เปลี่ยวเขต สภ.สามโคกนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 พ.ย. พล.ต.อ.ปัญญา  มาเม่น รอง ผบ.ตร.สบ.10 ,พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1  พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สาโรจน์ คุ้มทรัพย์ รรท.ผกก.สภ.สามโคก พ.ต.อ.สุนทร หิมารัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานีนำทีม ชุดสืบสวน ประกอบด้วย บก.สส.ภ.1  กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี และ สภ.สามโคก  สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด 3 คนแล้ว ทราบชื่อคือ 1.นายศราวุฒิ  โลเปือย  อายุ 30 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่      2.นายชาลี   หนูขาว  อายุ 38 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่  3.นายอนันต์  เอี่ยมลออ อายุ 37 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ โดยพนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามต่อศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 364-366/2558 ลงวันที่ 28พ.ย. 2558 ข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมฯ

การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก นายตัน ซู ออง และ นางอิ อิ มูน สองสามีภรรยาชาวเมียนมาได้เรียกแท็กซี่จากบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าย่านรังสิตเพื่อจะเดินทางต่อไปสมุทรปราการ โดยมีนายอนันต์ เดินมาเรียก เหยื่อทั้งสองไปขึ้นรถ โดยขึ้นรถแท็กซี่คันที่นายศราวุฒิ เป็นคนขับ หลังจากขึ้นรถแท็กซี่แล้วนายศราวุฒิ ได้ขับรถวนอยู่แถวรังสิตและพูดจาข่มขู่เรียกเอาเงินและทรัพย์สิน แต่ผู้เสียหายไม่ยอม นายศราวุฒิ จึงได้โทรศัพท์เรียก นายอนันต์และนายชาลี มาร่วมก่อเหตุ โดยตามมาขึ้นรถระหว่างทาง เมื่อทั้งสองคนขึ้นรถมาแล้วก็ได้พูดจาข่มขู่เอาทรัพย์สิน และได้ขับรถพามาถึงที่เปลี่ยว บริเวณป่าหญ้าใกล้ร้านโซนรังสิต อ.สามโคก จ.ปทุมธานี  ผู้ต้องหาได้ ทำร้ายร่างกายนายซู จนหมดสติทิ้งไว้ในป่าหญ้า จากนั้นได้เอาทรัพย์สินของนายซู ไป คือ 1.โทรศัพท์ มือถือ ราคา 5,500 บาท 2.เงินสด 500 บาท ส่วนนางอิ อิ มูน ถูกคุมตัวอยู่บนรถ

หลังก่อเหตุแล้วคนร้ายทั้งสามคนจึงได้ขับรถหลบหนีโดยมีนางอิ มูนภรรยาของนายซูติดรถไปด้วย โดยคนร้ายทั้งสามคนพานางอิ อิ มูน ไปที่ห้องพักย่านดอนเมืองแล้วปล่อยทิ้งไว้ โดยได้เอาโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ โนเกีย ไม่ทราบรุ่น ราคาประมาณ 3,000 บาท และเงินสด 700 บาท ของนาง อิ อิ มูน  หลบหนีไป

จากนั้น แล้วนายศราวุฒิ และ นายชาลี ได้หลบหนีไปที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตาม และประสานกับตำรวจท้องที่ สภ.หนองไผ่ จนสามารถจับกุมตัวได้ที่ ตลาดหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์  และติดตามยึดของกลางในคดีได้ คือ 1.รถยนต์ แท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน มช 8872 กทม.ซึ่งนายศราวุธฯใช้ก่อเหตุ   2.รถยนต์ แท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน มง 9630 กทม. ของนายชาลีฯ และ 3. โทรศัพท์ มือถือ ของนาง อิ อิ มู ยึดได้จาก นายชาลี นำส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วน นายอนันต์ ได้ประสานติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งจากนี้จะได้นำตัวมาแถลงข่าวพร้อมพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ และส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.อ.ปัญญา  มาเม่น รอง ผบ.ตร.สบ.10 กล่าวว่า หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จเรียบร้อย จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีใน ข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ส่วนนายชาลี จะได้ส่งดำเนินคดีเพิ่มเติมข้อหาอนาจาร 

ทั้งนี้คดีดังกล่าวถือว่าเป็นคดีภัยที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ใช้บริการรถแท็กซี่ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง จดหมายเลขทะเบียนรถ หรือโทรศัพท์แจ้งเพื่อนหรือญาติ แต่อาชีพรถแท็กซี่ก็ไม่ได้มีจิตใจโหดร้ายแทบทุกคน ยังคงมีเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งจากนี้จะได้มีมาตรการในการเข้มงวดกับกลุ่มอาชีพรถแท็กซี่ในเขตพื้นที่ชุมชนเมือง โดยจะมีการดำเนินการตรวจสอบประวัติรถแท็กซี่ และตรวจเข้มงวดในจุดพื้นที่ย่านรังสิต เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนที่ใช้บริการรถแท็กซี่ อย่างไรก็ตามหากประชาชนรายใดเคยถูกผู้ก่อเหตุกระทำพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว สามารถเดินทางเข้าตรวจสอบข้อมูลและขอดูตัวได้ที่ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี