posttoday

สตช.ออกหมายจับรายที่ 13 เอี่ยวระเบิดราชประสงค์

17 กันยายน 2558

โฆษกตำรวจเผยศาลอนุมัติหมายจับชาวปากีสถานผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดราชประสงค์และท่าเรือสาทรเป็นรายที่ 13

โฆษกตำรวจเผยศาลอนุมัติหมายจับชาวปากีสถานผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดราชประสงค์และท่าเรือสาทรเป็นรายที่ 13

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าได้ออกหมายจับคดีระเบิดคนที่ 13 โดยศาลจังหวัดมีนบุรี ได้ออกหมายจับ เลขที่ จ.843/2558 ลงวันที่17ก.ย.58นายอับดุล ดาวาบ (Mr.Abdul Tawab) สัญชาติ ปากีสถาน ในข้อหา "ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีซึ่งยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต"

สำหรับ นายอับดุล เป็นสามีของนางสาวปณิฐ์สรา ชาลีรัฐรมย์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ภายในหอพักสตรีอู๊ดย่านดินแดง

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง กล่าวว่าคณะของ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ  ชุดด้านสืบสวนที่ตนจะส่งไปหาข้อมูลกับผู้ต้องหา 3 คนที่ประเทศมาเลเซียควบคุมตัวอยู่ ยังไม่เดินทางไปมาเลเซียตามที่กำหนดว่าจะเดินทางไปวันนี้แต่อย่างใด ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ   ทั้งนี้กรอบในการพูดคุยเพื่อสอบถามว่าคนที่เราต้องการ ยังอยู่หรือไม่

"สื่อออกข่าวเยอะๆสิจะได้ตามได้ยากๆ หากไม่มีการรายงานข่าวว่าผู้ต้องหาหนีไปตรงนั้นตรงนี้ คงจบตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ผมเข้าใจการทำงานของสื่อ แต่สื่อก็เข้าใจคนทำงานด้วย"พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว

สำหรับผู้ต้องหา 3คนที่มาเลเซียคุมตัว ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นผู้นำพาผู้ต้องหาหลบหนีหรือไม่ เราจึงต้องไปคุยก่อนว่าเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน  ขณะนี้ยังไม่ชี้ชัดว่าทางการมาเลเซียจะให้เราเข้าคุย หรือพบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนหรือไม่ ทางมาเลเซียขอพิจารณาก่อนว่าทางการไทยต้องการอะไร แล้วเขาให้ได้แค่ไหน ทั้งนี้หากทั้ง3คนมีความผิดในไทยก็สามารถดำเนินการตามวิธีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งมีสนธิสัญญาร่วมกันอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่มีปัญหาโดยเชื่อว่าการพูดคุยกับ 3ผู้ต้องหาจะมีประโยชน์ ถึงแม้เรารู้ว่าผู้ต้องหาวางระเบิดที่เราตาม ไม่อยู่ในมาเลเซียแล้ว แต่เราจะได้รู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน   จากข้อมูลที่ได้รับทั้ง3คนที่ถูกควบคุมอยู่ในขบวนการขนคนข้ามแดนโดยผิดกฎหมายแต่ไม่ทราบว่าทำหน้าที่อะไร

เมื่อถามถึงการตามตัวนายอิซาน รองผบ.ตร.กล่าวว่า ตามข่าวว่าไปยังประเทศตุรกี ตอนนี้พอมีรายงานข่าวไปว่าผ่านประเทศไหนบ้าง ประเทศนั้นๆตกใจกันหมด

เมื่อถามถึงชายเสื้อเหลือง พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่มี ชื่อที่ทราบ ที่ได้จากการบอกเล่าของพยานที่เอาตัวมา เชื่อว่านำสู่การระบุชื่อในหมายจับได้ในอนาคตอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาในข้อหาก่อการร้ายได้หรือไม่  พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า  พรุ่งนี้ 10.30น. ตนจะประชุมภาพรวมคดีนี้ทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่าทำไปถึงไหนกันแล้ว ดูว่าตรงไหนสวมกันได้ ตรงไหนยังติดขัด จะแจ้งข้อหาก่อการร้ายได้หรือไม่ขอดูสำนวนก่อนว่าเข้าองค์ประกอบหรือไม่ ในเรื่องสำนวนให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.ซึ่งแม่นด้านการสอบสวนดำเนินการไป

ทั้งนี้ตำรวจคุยกับ ปปง.โดยตลอด หาข้อมูลเชื่อมโยงทุกด้านอยู่แล้ว ตรวจสอบเส้นทางการเงินทุกอย่าง ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าที่มาของทุนใหญ่ในการก่อเหตุครั้งนี้มาจากไหน  อย่างไรก็ตามแม้ยังไม่แจ้งข้อหาก่อการร้าย เพียงข้อหาธรรมดาก็ประสานทางอินเตอร์โพลให้ช่วยติดตามจับกุมได้อยู่แล้ว รวมทั้งประสานทางการทูต และการพูดคุยส่วนตัว เราใช้ทุกมิติ