รวบ"เอ็กซ์จักรกฤษณ์"ตร.ตั้งข้อหาพยายามฆ่า

กองปราบรวบเอ๊กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตมือปืนทีมชาติแล้ว หลังแม่-ภรรยาแจ้งความ พร้อมตั้งข้อหาพยายามฆ่า

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ตำรวจกองปราบปราม จับกุมนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ได้ที่บ้านพักของเพื่อนนายจักรกฤษณ์ ย่านพัฒนาการ หลังนางบุญชิต พณิชย์ผาติกรรม และพญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ แม่ และภรรยา แจ้งความที่สน.มีนบุรี ในข้อหาทำร้ายร่างกายและใช้ปืนข่มขู่ และได้คุมตัวไปทำการสอบสวนที่สน.

พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายและสอบปากคำพยานหลายปาก พร้อมทั้งรวบรวมหลักฐานขอหมายจับต่อศาลจังหวัดมีนบุรี โดยศาลได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 635/2556 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งหลังจากนี้ก็จะแจ้งข้อกล่าวหากับนายจักรกฤษณ์ พร้อมทั้งส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจเพื่อตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้เสียหายมีความหวาดกลัวทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เกรงว่าผู้ต้องหาอาจจะกลับไปทำร้ายหรือข่มขู่พยานได้ โดยในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ก็จะนำตัวนายจักรกฤษณ์ ส่งตัวฝากขังต่อศาลมีนบุรีต่อไป

ขณะที่นายจักรกฤษณ์ แถลงต่อสื่อมวลชน โดยปฏิเสธว่า ไม่เคยกระทำรุนแรงลูกและภรรยาตามที่ถูกกล่าวหา

"ชีวิตผมๆมอบให้ได้กับลูก ขอบอกว่าผมรักครอบครัวและลูกอย่างสุดชีวิต ตั้งแต่เลี้ยงมาผมไม่เคยใช้ความรุนแรงกับลูก"นายจักรกฤษณ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าได้ยิงปืนในบ้านจริง แต่ไม่เคยคิดจะฆ่าหรือทำร้ายลูกเมียเลย หากตนคิดจะทำจริงก็คงทำไปนานแล้ว ซึ่งในวันนี้ได้ซื้อนาฬิกามาเป็นของขวัญมอบให้ลูกด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้มอบให้ลูกหรือไม่ ส่วนเรื่องอื่นๆยังไม่ขอเปิดเผย

ส่วนเรื่องที่มีการพบสิ่งของต่างๆภายในบ้านของตนนั้น มีบางอย่างที่เป็นของตนจริง แต่บางอย่างก็ไม่ใช่ของตน ในชีวิตการแต่งงานย่อมมีการทะเลาะกันบ้าง

ก่อนหน้านี้ นางบุญชิต พร้อมด้วย พญ.นิธิวดี ของนายจักรกฤษณ์ ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อนางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยทั้งคู่อ้างว่าถูกนายจักรกฤษณ์ทำร้ายร่างกาย และใช้ปืนข่มขู่ ก่อนจะเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.มีนบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.ค. นาย จักรกฤษณ์ได้โทรศัพท์มาที่ สน.มีนบุรี เพื่อสอบถามรายละเอียดเรื่องที่มารดาและภรรยาเข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา ก่อนจะไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนายจักรกฤษณ์ให้ข้อมูลเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกายภรรยาคนที่เป็นข่าว แต่ทำร้ายร่างกายภรรยาอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด และขอให้ตำรวจออกหมายเรียกก่อน แล้วจะเดินทางมาพบเพื่อให้ปากคำถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

ขณะที่เมื่อช่วงสายของวันที่ 12 ก.ค. นายจักรกฤษณ์ ได้ประสานติดต่อขอเข้ามอบตัวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ต่อ พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี อย่างไรก็ตามนายจักรกฤษณ์ไม่ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด อีกทั้งยังปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถติดต่อได้ และหลบหนีจากบ้านพักย่านรามคำแหง