บังอาจแหกตามท.1?
ความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงานของ นายกฯ ลุงตู่ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ว่าไปแล้วก็โอเค
โดย...สันทัด กรณี
ความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงานของ นายกฯ ลุงตู่ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ว่าไปแล้วก็โอเค แต่ก็ไม่แล้วต้องเผชิญแรงกระแทกลูกแล้วลูกเล่า ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากเพื่อนพ้องน้องพี่ในรัฐบาล ทำตัวเป็นตำบลกระสุนตก
ล่าสุดมีการแฉเอกสารสำคัญความไม่ชอบมาพากลการที่ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามอนุมัติให้บริษัท เคทีดีฯ หรือกลุ่มบริษัทกระทิงแดง ใช้ที่ดินสาธารณะห้วยเม็ก มีลักษณะเป็นป่าชุมชน ซึ่งชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วม ในเขตหมู่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ให้บริษัทเคทีดีฯ จำนวน 31.2 ไร่ ใช้เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับโรงงานน้ำดื่มและเครื่องดื่ม
มองแค่นี้ก็เกิดคำถามขึ้นในใจ ที่ดินสาธารณประโยชน์นั้นเพื่อประโยชน์ของใคร? มองลึกเข้าไปคำถามยิ่งพรั่งพรู
เพราะในหนังสืออนุญาตนั้นอ้างว่า ที่แปลงสาธารณประโยชน์ดังกล่าว ปัจจุบันมีสภาพแห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ราษฎรไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน และไม่ได้เป็นพื้นที่รับน้ำ
ในข้อเท็จจริง พื้นที่ดังกล่าวยังคงสภาพป่า มีร่องน้ำธรรมชาติไหลริน ประชาชนในชุมชนยังเข้าไปใช้ประโยชน์ อาทิ เก็บของป่าเป็นแหล่งอาหารของชุมชน
เพราะในหนังสืออนุญาตนั้นอ้างว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการประชาพิจารณ์แล้วไม่มีชาวบ้านในพื้นที่คัดค้าน สภา อบต.พิจารณาแล้วเห็นควรอนุมัติให้เอกชนเช่าใช้ และได้มีการประกาศการขออนุญาตใช้ที่ดิน
ในข้อเท็จจริง ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ทราบ ไม่รู้ไม่เห็นเรื่องมีใครมา ทำประชาพิจารณ์ ทั้งยังร่วมกันคัดค้าน และร้องขอให้รัฐบาลนายกฯ ลุงตู่ นำที่ดินสาธารณประโยชน์จากเอกชนมาคืนชาวบ้านดังเดิม
ครับ...ผมติดตามดูเรื่องนี้มาหลายวัน ด้วยความประหลาดใจ เพราะเรื่องนี้มีเงื่อนงำแน่นอน เพราะไม่อยากเชื่อว่า คนระดับ คีย์แมนในการทำรัฐประหารมาแล้ว 2 ครั้ง จะมาตายน้ำตื้นกับเรื่องพวกนี้
วันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ แหวกม่านออกมาหน้าเวที ยืนยันว่าไม่ทราบแม้สักนิดว่า มีประชาชนในพื้นที่ต่อต้าน และถ้าทราบว่ามีแม้แต่คนเดียวการอนุมัติก็ไม่เกิดขึ้น พร้อมสั่งสอบหาคนแหกตา และพร้อมเพิกถอนคำสั่งที่ให้เอกชนเข้าใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์
ครับ...ก็เรียนว่า กลุ่มกระทิงแดงนั้น เล็งพื้นที่สาธารณประโยชน์แปลงนี้มานาน แล้วซื้อพื้นที่กว่า 500 ไร่โอบล้อม
ข้อสังเกตคือ พื้นที่นี้มีล่องน้ำธรรมชาติไหลรินอยู่ นี่ใช่ไหมจึงต้องเป็นที่แปลงนี้เท่านั้น เพราะบริษัทระดับนี้หากอยากได้ที่ดินแค่ 31 ไร่ ซื้อเอาจากชาวบ้านตรงแปลงอื่นก็แค่เศษเงิน
อ้อ...อย่ามองข้าม อบต.บ้านดง ที่ออกมาเซย์เยสกับบริษัท กระทิงแดง เพราะ อบต.บ้านดง คือคนที่รับประโยชน์รับค่าเช่าที่ แปลงนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการรับประโยชน์ในการเห็นชอบหรือไม่ อันนี้ ก็น่าคิด
ครับ...หากพื้นที่สาธารณประโยชน์แปลงนี้ ได้กลับสู่การใช้ประโยชน์ของสาธารณะ เชื่อว่าชื่อของ พล.อ.อนุพงษ์ จะตราตรึงใจชาวห้วยเม็กไปนานแสนนาน