posttoday

อุ๊ย!สื่อทำร้ายจิตใจ

04 พฤษภาคม 2560

เมื่อวาน “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก” หรือเรียกสั้นๆ ว่าวันสื่อมวลชนโลก ซึ่งปีนี้ที่บ้านเราดุเดือดยิ่ง

โดย...สันทัด กรณี

เมื่อวาน “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก” หรือเรียกสั้นๆ ว่าวันสื่อมวลชนโลก ซึ่งปีนี้ที่บ้านเราดุเดือดยิ่ง

ดุเดือดด้วยฝีมือของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่บรรจงเขียน ร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน เพื่อเตรียมส่งถึงรัฐบาลพิจารณายื่นต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาออกบังคับใช้เป็นกฎหมาย

องค์กรสื่อมีการยื่นหนังสือถึงท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนคัดค้านร่างกฎหมายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนและขอให้ยกเลิกหรือถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไป

อันที่จริง ในขั้นตอนปัจจุบันผมเองยังไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์อะไรมากนัก เพราะเชื่อว่ายังมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอีกมาก และเพิ่งเขียนถึงร่างกฎหมายฯ ของ สปท. ฉบับนี้ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

ชิชะ...ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน...ตั้งชื่อซะเคลิ้ม น่าชมชื่นใจ

หากชื่อ ร่าง พ.ร.บ. ติ๊งต่างเป็นหน้ามือ

เนื้อหาในร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ก็คือส้นเท้า ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น

ร่างกฎหมายนี้เต็มไปด้วยวิธีการควบคุมสิทธิเสรีภาพ ไม่ต่างจากปัสสาวะรดหัวใจบุคคลในวิชาชีพสื่อมวลชน หรือแม้แต่ประชาชนที่ใช้สื่อออนไลน์ ในการเผยแพร่หรือกระจายข่าวสาร

จึงเป็นเหตุให้คนในแวดวงสื่อสารมวลชน ออกมาเปิดหน้าชนสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และเรียกร้องให้ยกเลิกร่างกฎหมายฉบับนี้กันอย่างอึกทึก

ใครได้ฟังการพิจารณาอภิปรายของสมาชิก สปท. และคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสื่อสารมวลชน ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ก็จะทราบดีว่า กลุ่มคนซึ่งล้วนเป็นนายทหารใหญ่ และอดีตคนในเครื่องแบบ คนเหล่านี้ส่วนมากมีทัศนคติต่อสื่อมวลชนในเชิงทำลายล้าง ต่อต้านการทำหน้าที่ของสื่อ และไม่พอใจการตรวจสอบของสื่อมวลชนขนาดไหน

ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้ยินคำพูดจากปากคนเหล่านี้ อาทิ...

“ไม่ว่าสื่อออนไลน์ สื่ออะไรก็แล้วแต่ สิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ มีปัญหาหมด...”

“ผมไม่เข้าใจ ไอ้สื่อพวกนี้จริงๆ มันต้องจับไปยิงเป้า”

“สื่อหลัก ทั้งสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์รวมถึงสื่อออนไลน์ สร้างผลกระทบต่อจิตใจประชาชน ถ้าไม่กำกับดูแล อาจเกิดการล่วงละเมิดสิทธิถึงขั้นสูญเสียทรัพย์สิน หากยังปล่อยไว้จะกระทบต่อความมั่นคงชาติ”

“จะต้องปฏิรูปปลูกฝังจิตสำนึกตั้งแต่วัยเด็กโดยความร่วมมือจากภาครัฐภาคประชาชน อบรมต่อเนื่องทั้งสื่อและเจ้าของกิจการให้ตระหนัก”

ครับ...น่าแปลกใจบรรดาอดีตนายทหารใหญ่ใน สปท. ทำไมถึงได้เคียดแค้นชิงชังสื่อมวลชน ต่อต้านการถูกตรวจสอบอะไรขนาดนั้น

แต่ก็อะนะ ผมลองไปคุ้ยๆ เบื้องหน้าเบื้องหลังบางท่าน สิ่งที่พบเล่นเอาขนลุกเกรียว โอ้โฮเฮะ “น้องๆ ตั๋งโต๊ะ”

ฮ่าๆๆ แบบนี้ อย่างนี้ วันไหนโลกเปิด เสรีภาพสื่อมีอยู่จริง กฎหมายเอื้อให้เปิดโปง พวกพี่ๆ เขาต้องเดือดร้อนแน่นวล

กระพ้มหายสงสัยแล้วครับพี่น้องครับ