จุดแข็งของสุขุมพันธุ์

โดย...คุณบ๊งเบ๊ง [email protected]

นาทีนี้ นักการเมืองที่ดูจะมีอิทธิพลสูงสุดคงหนีไม่พ้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะไม่ว่าจะมีเรื่องไม่ชอบมาพากลไม่รู้กี่เรื่อง เก้าอี้ของท่านก็ยังเหนียวแน่น ไม่ถูกดำเนินการใดๆ จากรัฐบาล คสช.

ต่างจากผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่างจากนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ต่างจากข้าราชการหลายรายก่อนหน้านี้ ที่มีเพียงเรื่องชี้มูล “ใช้เงินผิดประเภท” ก็ถูก ม.44 ให้พ้นจากตำแหน่ง จนบัดนี้ หลายรายที่ถูกเด้งไปแล้ว นานปีสองปี ก็เกษียณอายุทั้งที่ถูกพ้นจากตำแหน่ง ไม่ได้กลับที่เดิม

แต่เก้าอี้คุณชายสุขุมพันธุ์ยังเหนียวแน่นหนึบ แม้จะมีเรื่องร้องเรียนทั้งสนามฟุตซอล ทั้งกล้องดัมมี่ อุโมงค์ไฟ ห้องทำงานหรู หรือแม้แต่รถ-เรือดับเพลิง ชีวิตคุณชายก็ดูจะไม่เดือดร้อนอะไร

ซ้ำร้ายเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำ “รอระบาย” ทุกครั้ง คนกรุงเทพฯ อย่างผม มักพบว่า คุณชายเดินทางไปดูงานต่างประเทศอยู่หลายครา

ตรงนี้น่าสนใจครับว่า “จุดแข็ง” ของคุณชายคืออะไร ทั้งที่ความสามารถในการบริหาร กทม.ไม่ได้โดดเด่น ผลงานที่่ผ่านมาไม่ได้เอามาโฆษณาอะไรได้มากมาย แต่ท่านเป็นขวัญใจทั้งของคน กทม.จนได้คะแนนเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งของรัฐบาล คสช.แทบจะมองไม่เห็นความผิดของคุณชายเลย

จุดแข็งเดียวของคุณชายคือการมีอีกหัวโขนหนึ่งในการเป็น “รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” และการเป็นคนของประชาธิปัตย์ นั่นล่ะครับ

หากจำกันได้ ระหว่างการแข่งขันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อปี 2556 จุดขายที่หม่อมสุขุมพันธุ์เอาชนะ พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทยได้คือการโหมโปรโมตช่วงสองสามอาทิตย์สุดท้ายว่า “รวมพลังหยุดผูกขาดประเทศไทย”

กระทั่งปราศรัยใหญ่ยังต้องยกเรื่อง “เผาบ้านเผาเมือง” มากระตุ้นความจำคนกรุง ในที่สุด คุณชายได้คะแนนเสียงชนะ “พวกเสื้อแดง” อย่างท่วมท้น ได้เป็นผู้ว่าฯ สมัยที่ 2 แม้ผลงานที่ผ่านมาจะไม่โดดเด่นอะไร

หากจำกันได้ ในช่วง กปปส.ไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กทม.ภายใต้การอำนวยความสะดวกของคุณชาย ช่วยต่อไฟสปอตไลต์ ตั้งเวทีชุมนุม รวมถึงเซตเครื่องขยายเสียงให้ด้วย พร้อมกันนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ กทม.คอยดูแลความเรียบร้อยให้ตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง ทั้งเวทีใหญ่ที่ราชดำเนิน ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และอีกหลากเวทีย่อยช่วง “ชัตดาวน์ กทม.”

คงมีประเทศไทยที่เดียวกระมัง ที่ใช้ “งบหลวง” เพื่อชุมนุมไล่รัฐบาลไปจนถึงสนับสนุนการทำผิดกฎหมายอย่างการปิดสถานที่ราชการได้

ทว่า เรื่องนี้ สตง.และ คสช.คงไม่เข้าไปยุ่ง เพราะหาก กปปส.ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ใหญ่อย่างคุณชายในวันนั้น คงไม่มีรัฐบาลทหารที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้

ด้วยเหตุนี้ คุณชายฯ จึงมีเกราะป้องกันสำคัญ ทั้งการเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งการเป็นสปอนเซอร์ของ กปปส. ไม่ใช่คนทั่วไปจะโดนจับย้ายไปไหนมาไหนได้

ความเกลียดกลัว “พวกเสื้อแดง” จึงทำให้ท่านผู้ว่าฯ ได้รับเสียงท่วมท้น การมีบุญคุณต่อ กปปส.จึงทำให้เก้าอี้ผู้ว่าฯ เหนียวหนึบ

ส่วนเรื่อง “ไม่ชอบมาพากล” ย่อมเป็นเรื่องเล็ก เพราะสำหรับประเทศนี้แล้ว แค่ไม่ใช่คนของ “ทักษิณ” คุณก็เป็นคนดีได้ง่ายๆ แล้ว