posttoday

ลูบหน้าปะจมูก

20 สิงหาคม 2560

ทุกวันนี้ประเทศไทยมีเรื่องตลกให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน วันก่อนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งเปิดรายชื่อ 120 คน ที่มาเป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ

โดย...หงส์แดง

ทุกวันนี้ประเทศไทยมีเรื่องตลกให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน

วันก่อนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งเปิดรายชื่อ 120 คน ที่มาเป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ เห็นหน้าค่าตาของผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละคนแล้วก็มีส่วนผสมที่ลงตัวและไม่ลงตัวพอสมควร

ผมในฐานะที่ไม่ได้จบปริญญาเอกจากเมืองนอก ภาษาอังกฤษก็พอถูๆ ไถๆ คงมิอาจไปวิจารณ์ถึงความรู้ความสามารถของพวกท่านๆ ทั้ง 120 คนได้

ที่สำคัญ ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้ซีเรียสกับการมีคนหน้าซ้ำๆ เข้ามานั่งทำงานแลกกับเงินภาษีประชาชน

การเอาคนหน้าเดิมมาทำงาน เป็นเรื่องปกติของการทำงาน นักการเมืองที่ตกงานวันนี้ที่ต่างดาหน้ามาวิจารณ์แบบสาดเสียเทเสียก็ไม่ได้ดูตัวเองเอาเสียเลย

สมัยที่พวกท่านเป็นผู้ปกครองประเทศ เวลาปรับ ครม.ก็เอาคนหน้าเดิมใน ครม.นั่นแหละสลับเก้าอี้ไปอยู่กระทรวงนั้นกระทรวงนี้กันเพลิน

หากจะมีคนหน้าใหม่เข้ามาบ้างเล็กน้อยให้พอเป็นสีสัน แต่คนหน้าใหม่เหล่านั้นก็อยู่ได้ไม่นาน

บางรัฐบาลเคยปรับ ครม.เกือบ 10 ครั้ง เอาคนนั้นไปอยู่ตรงนั้นตรงนี้ตามใจฉัน

บางคนเปื้อนสีเทาๆ จากการทำงานในกระทรวงนี้ ปรากฏว่าถูกย้ายไปอยู่อีกกระทรวงหนึ่งแบบหน้าตาเฉย

เห็นไหม เวลาด่าใครโดยไม่ดูตัวเอง ของมักจึงเข้าตัว

เรื่องคนหน้าเดิม อย่างที่บอกผมเองไม่ค่อยสนใจเท่าไร

กลับมาที่หน้าตาของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศบางคณะเห็นแล้วก็นับว่าถูกฝาถูกตัวเหมือนกัน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่นำโดย “ประสาร ไตรรัตน์วรกุล” อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

เห็นชื่อแล้วก็อุ่นใจ เชื่อมือได้เลยว่าไม่มีเสียของแน่นอน ส่วนคณะกรรมการชุดอื่นๆ ต้องเร่งพิสูจน์ฝีมือ เพื่อลบคำสบประมาทของพวกผีเจาะปากมาพูดให้ได้

แต่ถ้าจะมีเรื่องที่การปฏิรูปประเทศไม่เดินหน้า น่าจะเป็นระบบการทำงานที่ออกแบบไว้ใน พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2560

พลิกอ่านกฎหมายดังกล่าวแล้ว ทำให้นึกไปว่าเป็นการอวตารมาจาก สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) หรือเปล่า เนื่องจากอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศมันช่างละม้าย สปช.และ สปท.จริงๆ

ทั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ สปช.และ สปท.เหมือนกันตรงที่มีหน้าที่เสนอแผนการปฏิรูปประเทศให้กับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เสียวจริงๆ ว่าการปฏิรูปจะกลายเป็นการพายเรือในอ่าง ประมาณว่าเสนอแผน แผน แล้วก็แผน ไปให้รัฐบาล ทุกอย่างก็ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักที่ทำเนียบรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ สปช.และ สปท.เสนอรายงานไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเล่มไปให้รัฐบาล ไม่รู้ว่าป่านนี้ชั่งกิโลขายให้ซาเล้งไปแล้วหรือยัง

น่าเป็นห่วงจริงๆ กับการกำหนดโครงสร้างการปฏิรูปแบบนี้ นอกจากจะไม่คืบหน้าแล้วยังถอยหลังลงคลองด้วยซ้ำ

ไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้นที่จะไปตั้งคณะกรรมการอีก หากจะขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้เป็นรูปธรรมจริง รัฐบาลย่อมสามารถทลายทุกอุปสรรคที่เป็นปัญหาได้ในฐานะผู้คุมอำนาจ

สุดท้ายได้แต่หวังว่าการปฏิรูปประเทศของไทย จะไม่ลูบหน้าปะจมูกอย่างที่ใครๆ เขาว่ากัน