posttoday

วัฒนธรรมดีๆ

05 มีนาคม 2560

ปัญหาสังคมที่วุ่นวายสับสนกันอยู่ในขณะนี้ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสังคมไทยยังขาดหายการปลูกฝังวัฒนธรรมดีๆ

โดย...นาย ป.

ปัญหาสังคมที่วุ่นวายสับสนกันอยู่ในขณะนี้ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสังคมไทยยังขาดหายการปลูกฝังวัฒนธรรมดีๆ ตั้งแต่วัยเยาว์ นั่นคือวัฒนธรรมการเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และวัฒนธรรมการเคารพกฎหมาย จึงอยากนำสองเรื่องที่น่าสนใจและเกิดขึ้นจริงมาเล่าสู่กันฟัง

ประเทศที่ได้รับการยกย่องว่ามีระเบียบวินัยที่สุด คือ ญี่ปุ่น เพราะเขามีวัฒนธรรมสองสิ่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้ชมสารคดีเรื่องหนึ่งนำเสนอได้น่าสนใจมาก ทางช่องเอ็นเอชเค ที่นำเสนอเรื่องนิสัยการเขียนไดอารี่ของชาวญี่ปุ่น ที่เริ่มปลูกฝังการเขียนไดอารี่ภาพตั้งแต่เด็กๆ ในชั้นประถมจนกลายเป็นนิสัยติดตัวไปจนโต และกลายเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดมีการพัฒนาเป็นทักษะด้านศิลปะให้เด็กๆ ได้มีจินตนาการก้าวไกล น่านับถือมากที่ญี่ปุ่นส่งเสริมจินตนาการ เพราะมันเป็นพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์นั่นเอง

 สิ่งสำคัญก่อนเขียนไดอารี่ต้องคิดแล้วคิดอีกจึงจะเขียนอะไรลงไป เป็นการทำให้เกิดกระบวนการคิดแบบสมบูรณ์ ไม่ใช่ใช้อารมณ์โกรธหรือเกลียดใครมาระบายลงไปในไดอารี่ แต่ทุกครั้งก็จะต้องคิดก่อนเขียนเสมอ ซึ่งทำให้มีการทบทวนการกระทำ รู้จักควบคุมอารมณ์ และรู้จักสรุปเรื่อง หรือมีการบันทึกเป็นเรื่องเป็นราว เป็นต้น 

 น่าสนใจตรงที่ว่าในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนั้น มีการแลกเปลี่ยนไดอารี่ให้คนอื่นอ่านด้วย ซึ่งไม่เหมือนที่อื่นในโลก ตัวอย่างเช่น ในวงโยธวาทิตของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ทุกคนในวงต้องเขียนไดอารี่ประจำวันส่งก่อนกลับบ้าน แล้วหัวหน้าวงจะเอาไปอ่านแล้วมีความคิดเห็นอย่างไร ด้วยว่า “เรา” จะแก้ปัญหาที่แต่ละคนพบหรือกังวลอย่างไร เพื่อทำให้วงประสบความสำเร็จไปด้วยกัน เป็นการแชร์ความคิดกัน อันเป็นพื้นฐานของการทำงานเป็นทีม ไม่ใช่พูดกันเฉยๆ แล้วปล่อยเลยไปไม่มีหลักฐาน ญี่ปุ่นเชื่อว่าวิธีนี้ดีกว่าการด่าประจานกันแบบฝรั่ง นับเป็นการเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งคิดว่ามันเป็นคาแรกเตอร์อันงดงามของชาวตะวันออก

 นับเป็นการเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่แตกต่าง จะทำให้เราเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น เพราะเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างเข้าอกเข้าใจ ยิ่งในยุค 4.0 ที่เราไม่ใช่แค่จะสัมผัสวัฒนธรรมได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้น แต่คงไม่เข้าใจถ้าไม่ใช้ปัญญา

 อีกตัวอย่างที่น่าสนใจ บริษัท ไดอิจิ ได้เข้ามาให้บริการแท็กซี่ในประเทศเมียนมาแล้ว เพราะเห็นโอกาสที่น่าสนใจมาก ญี่ปุ่นพบว่าตอนนี้นักลงทุนญี่ปุ่นไปลงทุนในเมียนมามากขึ้นๆ แต่ทุกคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าบริการแท็กซี่เมียนมาที่ประกอบกิจการอยู่ทุกวันนี้มีจำนวนมาก แข่งกันแย่งผู้โดยสารกัน ไม่แบ่งปันกัน นิสัยชอบขับรถแย่มากๆ ปาดไปปาดมา เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารและสร้างปัญหาการจราจร

 นอกจากนี้ พนักงานขับรถไม่เป็นมืออาชีพ และชอบหลอกลวงผู้โดยสาร นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ญี่ปุ่นเห็นชอบมาลงทุนการให้บริการแท็กซี่ในเมียนมา จึงใช้พนักงานขับรถเป็นคนเมียนมา แต่ใช้มาตรฐานการบริการและความปลอดภัยแบบญี่ปุ่น โดยพนักงานขับรถรับเงินเดือนจากบริษัท รถมีมิเตอร์ค่าบริการตามระยะทาง และไม่มีการต่อรอง ในช่วงแรกๆ เน้นลูกค้าญี่ปุ่น ตอนนี้ลูกค้าขยายมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว แน่นอนการบริการแบบนี้ไปได้สวย แถมยังเป็นการช่วยรัฐบาลเมียนมาจัดระเบียบการให้บริการแท็กซี่และการจราจรด้วย รัฐบาลเมียนมาชอบมาก

 แต่หากเป็นประเทศไทยแล้วละก็ ทำแบบนี้คงโดนปิดถนนประท้วงไปแล้ว!