มุสาวาทา

โดย...ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์

ยังเป็นประเด็นให้ประชาชนในสังคมต้องติดตามกับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ในการนำตัว “ธัมมชโย” อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

รวมไปถึงเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์มาดำเนินคดีในข้อหาตามที่ได้ปรากฏบนหน้าสื่อมวลชนทุกแขนง จะสามารถทำสำเร็จได้หรือไม่ หรือยังต้องรออะไร

แต่ที่เป็นเรื่องฟังดูแล้วน่าตลกขบขันก็คงจะเป็นการให้สัมภาษณ์ของทางวัดพระธรรมกาย กรณีมีการนำเสนอข่าวพระธัมมชโยเดินทางอยู่ในวัดนั้น

โดยทางวัดมองว่าน่าจะเป็นภาพเก่า เพราะทางวัดไม่เคยพบอดีตเจ้าอาวาสมาตั้งแต่เดือน พ.ค. รวมถึงโฆษกศิษยานุศิษย์วัดหลังถูกออกหมายจับก็ไม่พบตัวเช่นกัน

จึงเป็นเรื่องงงงวยสงสัยอย่างมาก โดยเฉพาะโฆษกวัดก่อนหน้านี้ที่เคยปรากฏตัวออกจอทีวีอยู่หลัดๆ และถ้าไม่เจออดีตเจ้าอาวาสวัดก็แสดงถึงความบกพร่องของเจ้าหน้าที่

ที่ปล่อยให้บุคคลซึ่งอยู่ภายใต้การจับตาของทางการหายไปโดยไร้ร่องรอย จึงเป็นเรื่องต้องย้อนกลับไปถามเจ้าหน้าที่กับกระบวนการทำงาน ปล่อยปละละเลยได้อย่างไร

หากไม่ใช่แล้ว คงเป็นคำถามย้อนกลับไปยังวัดพระธรรมกายว่าจริงๆ เรื่องนี้เป็นอย่างไร เพราะถ้าทางวัดให้การปกปิดประเด็นดังกล่าวกับสื่อและเจ้าหน้าที่ ไม่ต่างอะไรจากผิดศีลข้อ 4 มุสาวาทาเวรมณี ซึ่ง ทุบโต๊ะ...เลยว่า มันผิดและบาปหนักหนาสาหัส ยิ่งกว่าฆราวาสหลายเท่า