posttoday

สำรวจทฤษฎีเกมการสืบทอดที่จะทำนายความต่อเนื่องของธุรกิจครอบครัว

24 เมษายน 2567

การบริหารธุรกิจครอบครัวให้ประสบความสำเร็จยั่งยืนคือหนึ่งในงานที่ยากที่สุดในโลกจากความซับซ้อน ล่าสุดมีการวิจัยผ่านเกมการสืบทอดที่จะช่วยทำนายความต่อเนื่องของธุรกิจ ที่สุดท้ายพบว่าขึ้นกับการละทิ้งผลประโยชน์ส่วนตัวและร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ของธุรกิจนั่นเอง

เคยมีคำพูดที่กล่าวไว้ว่า “การบริหารธุรกิจครอบครัวให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน เป็นหนึ่งในงานที่ยากที่สุดในโลก” ด้วยความซับซ้อนของความเป็นครอบครัว ธุรกิจ และความเป็นเจ้าของที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ ผลประโยชน์ และอำนาจ ทำให้คำกล่าวข้างต้นก็ไม่ผิดความจริงเลย แต่ละธุรกิจครอบครัวก็จะมีทั้งจุดแข็งและปัญหาของตัวเอง ความซับซ้อน ยากง่ายขึ้นอยู่กับสมาชิกครอบครัวในบ้านว่าถูกบ่มเพาะมาอย่างไร มีระบบการบริหารครอบครัวและธุรกิจที่ดีหรือไม่ แต่ในความยากของความยากนั้นต้องยกให้กับงานที่เรียกว่า “การสืบทอดธุรกิจ” 

โดยธรรมชาติของธุรกิจครอบครัวมักมีแนวโน้มที่จะเกิดความขัดแย้งค่อนข้างสูง ทั้งจากการแข่งขันในหมู่พี่น้อง (Sibling Rivalry) และความขัดแย้งทางอารมณ์อื่นๆ บางครั้งอาจทำให้การตัดสินใจมีความคลุมเครือไม่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัว ซึ่งหนึ่งในการตัดสินใจที่ยากที่สุดคือการเลือกคนมาแทนตำแหน่งของผู้ก่อตั้ง  โดยเฉพาะถ้ามีสมาชิกในครอบครัวมากกว่าหนึ่งคนที่ต้องการตำแหน่งนี้ ยิ่งทำให้ต้นทุนความขัดแย้งในธุรกิจครอบครัวอาจสูงลิ่ว เช่นกรณีของ Reliance Industries ซึ่งผู้ก่อตั้งเสียชีวิตโดยไม่ได้แต่งตั้งผู้สืบทอดเอาไว้ก่อน ทำให้ลูกชายสองคนต้องต่อสู้กันอย่างหนักเพื่อตำแหน่งนี้ จนผู้เป็นแม่ต้องแยกบริษัทออกเป็น 2 ส่วนเพื่อรักษากิจการเอาไว้ 

ทั้งนี้นับเป็นเรื่องยากสำหรับหลายครอบครัวที่จะแยกธุรกิจออกจากเรื่องส่วนตัว มองเห็นทางออกท่ามกลางความสับสนทางอารมณ์ และตัดสินใจเกี่ยวกับการสืบทอดได้อย่างเหมาะสม ในรายงานการวิจัยเรื่อง Effects of Sibling Competition on Family Firm Succession: A Game Theory Approach ของ Shital Jayantilal และคณะ ที่ตีพิมพ์ในปีค.ศ. 2016 ได้แสดงวิธีที่ทฤษฎีเกม (Game Theory) สามารถใช้ในการชั่งน้ำหนักต้นทุนและผลประโยชน์ที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ในการสืบทอดกิจการ และช่วยให้ทั้งผู้ก่อตั้งและผู้สืบทอดที่เป็นไปได้ สามารถเห็นได้ว่าแต่ละสถานการณ์จะให้ผลลัพธ์ต่อพวกเขาเป็นการส่วนตัวอย่างไร ข้อค้นพบที่สำคัญที่สุด คือ ความต่อเนื่องของธุรกิจครอบครัวอาจขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนในการละทิ้งผลประโยชน์ส่วนตัวไว้ข้างหลัง และร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ของธุรกิจ

การวิจัยทำการศึกษาผู้เล่นสมมุติ 3 คนในเกมการสืบทอด ได้แก่ ผู้ก่อตั้ง 1 คนและผู้สืบทอดที่เป็นไปได้ 2 คน โดยมีการกำหนดค่าทางคณิตศาสตร์ให้กับ 8 ปัจจัยที่สัมพันธ์กัน ซึ่งส่งผลต่อกระบวนการสืบทอด ได้แก่ 1) ทักษะความเป็นผู้นำ 2) การมุ่งเน้นครอบครัว 3) ระดับความสำคัญที่ผู้ก่อตั้งให้กับทักษะความเป็นผู้นำ 4) ระดับความสำคัญที่ผู้ก่อตั้งให้กับการมุ่งเน้นครอบครัว 5) ลูกแต่ละคนต้องการตำแหน่งผู้นำมากแค่ไหน 6) ระดับความสำคัญที่ลูกแต่ละคนให้กับทางเลือกอาชีพที่ดีที่สุดนอกธุรกิจครอบครัว 7) ต้นทุนทางอารมณ์ที่เกิดจากการแข่งขันในหมู่พี่น้อง และ8) ต้นทุนในการเข้าร่วมคัดเลือกตำแหน่งผู้นำ (Cost of Running) ในด้านความยากลำบากและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น

ทั้งนี้ทีมวิจัยได้พัฒนาแผนผังเกมที่ลงท้ายด้วยผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน 7 แบบสำหรับผู้เล่น 3 คน คือ ผู้ก่อตั้ง 1 คน และผู้สืบทอดที่เป็นไปได้ 2 คน ซึ่งเรียกว่าลูกคนโตและลูกคนเล็ก โดยเมื่ออ่านแผนผัง ผู้เล่นจะเห็นว่าความรู้สึกส่วนตัวและการตัดสินใจของตนในจุดสำคัญแต่ละจุดจะส่งผลลัพธ์ต่อพวกเขาอย่างไรในตอนท้ายที่สุด ทั้งในด้านความมั่งคั่งส่วนบุคคลและความผาสุกทางอารมณ์ เมื่อมองย้อนกลับไปจากผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นทั้ง 7 แบบ ผู้เล่นจะเห็นว่าการตัดสินใจแต่ละครั้ง

โดยเริ่มต้นด้วยการตัดสินใจของลูกคนโตที่จะเข้าร่วมคัดเลือกตำแหน่งผู้นำหรือไม่ จะเกิดผลลัพธ์อย่างไร ตัวอย่างเช่น ผู้ก่อตั้งอาจสามารถวิเคราะห์ได้ว่าทางเลือกใดจะทำให้ได้ผู้สืบทอดที่มีความสามารถมากที่สุดโดยไม่มีต้นทุนทางอารมณ์ที่สูงเกินไป และแคนดิเดตแต่ละคนสามารถตัดสินได้ว่าการเข้าร่วมคัดเลือกตำแหน่งผู้นำหรือไม่เข้าร่วมจะให้ผลดีที่สุดในด้านอาชีพหรือด้านอารมณ์ อีกทั้งแคนดิเดตยังสามารถพิจารณาได้ว่าต้นทุนทางอารมณ์ในการแย่งชิงตำแหน่งผู้นำอาจสูงเกินไป จนทำให้จำเป็นต้องย้ายออกไปบริษัทภายนอกหรือไม่ หากผู้ก่อตั้งชอบแคนดิเดตอีกคนมากกว่า
    
ข้อสังเกตสำคัญจากการวิจัย ได้แก่ 

  • หากแคนดิเดต 1 ใน 2 คน มีทักษะความเป็นผู้นำที่ดีกว่าและมีความมุ่งเน้นครอบครัวอย่างเข้มแข็ง บุคคลนั้นจะได้เป็นผู้สืบทอดโดยปริยาย
  • หากแคนดิเดตทั้ง 2 คนต้องการตำแหน่งนี้ ให้ดูการลำดับความสำคัญของผู้ก่อตั้งว่าให้ความสำคัญธุรกิจหรือครอบครัวมากกว่ากัน เพราะผู้ก่อตั้งมักจะเห็นชอบแคนดิเดตที่มีความคิดคล้ายคลึงกัน 
  • หากผู้ก่อตั้งเห็นชอบอย่างชัดเจนต่อผู้สืบทอดคนใดคนหนึ่งในสองคน และบุคคลนั้นต้องการตำแหน่งนี้มากกว่าแคนดิเดตอีกคน การตัดสินใจก็เป็นเรื่องง่ายเพราะทุกคนจะได้สิ่งที่ต้องการ แม้ว่าแคนดิเดตที่มีแรงจูงใจน้อยกว่าจะมีคุณสมบัติที่ดีกว่าก็ตาม
  • ลูกที่มีความมุ่งเน้นครอบครัวอย่างมาก อาจไม่เต็มใจที่จะก่อความขัดแย้งกับคู่แข่งในตำแหน่งผู้นำ แม้ว่าเขาหรือเธอจะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการเป็นผู้นำมากกว่าก็ตาม
  • แม้ว่าแคนดิเดตคนใดคนหนึ่งไม่ต้องการเป็นผู้นำ แต่แคนดิเดตอีกคนก็อาจตัดสินใจเลือกอาชีพอื่นนอกธุรกิจครอบครัวที่คิดว่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ซึ่งย่อมทำให้ความต่อเนื่องของธุรกิจครอบครัวตกอยู่ในความเสี่ยง
  • ยิ่งต้นทุนทางอารมณ์ที่ลูกต้องแบกรับในการแข่งขันกับพี่น้องสูงมากเท่าใด ก็ยิ่งลดโอกาสที่ลูกคนนั้นจะถูกเลือกเป็นผู้สืบทอด แม้ว่าจะเป็นแคนดิเดตที่ผู้ก่อตั้งต้องการเลือกจริงๆก็ตาม
  • การวิเคราะห์ผลลัพธ์ความร่วมมือของครอบครัวได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของผู้ก่อตั้ง ผู้ปฏิบัติงาน และที่ปรึกษาในการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความสามัคคีระหว่างสมาชิกในครอบครัวให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยรับประกันว่าการสืบทอดธุรกิจครอบครัวระหว่างรุ่นจะเป็นไปได้อย่างดี

อย่างไรก็ตามแม้ว่าการมีวิธีที่สมเหตุสมผลในการวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะมีประโยชน์มาก แต่ครอบครัวก็ยังอาจต้องมีที่ปรึกษาเพื่อช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอนาคตของบริษัทอาจตกอยู่ในความเสี่ยงด้านใดด้านหนึ่ง ที่ปรึกษามืออาชีพจะช่วยให้สามารถรับมือกับทุกปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ที่มา: Shital Jayantilal , Sílvia Jorge and Tomas M. Bañegil Palacios.  October 24, 2023.  Playing the Succession Game to Ensure Family Business Continuity.  Availabe:https://familybusiness.org/content/playing-the-succession-game-to-ensure-family-business-continuity

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.famz.co.th

โดย: รองศาสตราจารย์ ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล