posttoday

โบรกส่องหุ้นไทย 25เม.ย.67 บวกต่อ เคาะต้าน 1370-1400 จุด

24 เมษายน 2567

หุ้นไทยวันนี้ปิดบวก 3.64 จุด แตะ 1,361.10 จุดรับแรงซื้อ DELTA - CPAXT - CPALL หนุน แม้หุ้นแบงก์กดดัน โบรกเคาะกรอบแนวต้านพรุ่งนี้ 1370 - 1400 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(24 เม.ย. 2567) อยู่ที่ 1,361.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.64 จุด คิดเป็น +0.27% มูลค่าการซื้อขาย 38,536.24 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,364.91 จุด และลดลงต่ำสุด 1,355.44 จุด

โบรกส่องหุ้นไทย 25เม.ย.67 บวกต่อ เคาะต้าน 1370-1400 จุด  

10 หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด ดังนี้

โบรกส่องหุ้นไทย 25เม.ย.67 บวกต่อ เคาะต้าน 1370-1400 จุด

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า SET Index ปรับขึ้น +3.64 จุด +0.27% ปิดที่ 1361 จุด มูลค่าการซื้อขายยังสูงอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 202 บริษัท จำนวนปรับลง 238 บริษัท)  โดย Sector ปรับขึ้นหนุนดัชนี หลักๆคือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA กลุ่มค้าปลีก CPALL CPAXT กลุ่มการเงิน MTC ฯลฯ Sector ที่กดดัชนีคือ กลุ่มธนาคาร (BBL, BAY, SCB) กลุ่มขนส่ง (AOT) กลุ่มพลังงาน (PTT, GULF, EA) 

     โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ WHA +2.1% ปรับขึ้นรับแนวโน้มกำไรปกติ 1Q24F คาดที่ 750 ลบ. (+49%y-y,-70%q-q) เพิ่มขึ้น y-y ปัจจัยหลักจากคาดยอดโอนที่ดินราว 580 ไร่ (TH 340 ไร่ VN 240 ไร่) สูงกว่า 1Q23 ที่ 281 ไร่  คาด 2H24F ดีกว่า 1H24F จากปัจจัยฤดูกาลและการขายทรัพย์เข้ากองฯจำนวน 2 กองใน 4Q24F ทั้งนี้ บริษัทคงเป้า Pre-sales ที่ 2,275 ไร่ และคาดมีการปรับเป้าขึ้นในช่วงกลางปีอีกครั้ง คงคำแนะนำ “Buy” TP6.40บ. ยังคงเลือกเป็น Top pick กลุ่มฯ

     ILM  +2.56% เราแนะนำสะสมหุ้น ILM 1)Valuation หุ้น ILM ต่ำกว่า -1 S.D. ของ Forward PER แถว 12x  vs. ค่าเฉลี่ย avg 13.4x 2)ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่บริเวณ 19.9 บาท  Fibonacci Retracement  ratio ที่ระดับ 61.8% อยู่ที่ 19.3 บาท คือ Support หลัก 3)Earning Outlook ฐานกำไร Eps Growth ใกล้ 10% ในปี 2024 แนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q24F ที่จะทำจุดสูงสุดใหม่ 199 ลบ. (+14%y-y,+1%q-q) และดีต่อ 2Q24F จะโตจากกระแสท่องเที่ยวยังโตดีและค่าไฟต่ำกว่าปีก่อน กลยุทธ์ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท 

     ICHI +1.76%, OSP +1.43%, CPAXT +3.97% หุ้นกลุ่มอิงบริโภคปรับตัวขึ้น ปรับประเด็นคือ 1) PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ยุโรป ขยายตัวดีกว่าคาด 2) วานนี้นายกฯพบ 4 ธนาคารใหญ่ (KBANK, KTB, BBL, SCB) ขอให้ พิจารณาแนวทางช่วยเหลือประชาชนในส่วนความเดือดร้อนเรื่องดอกเบี้ยร่วมไปกับรัฐบาล มองจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มอิงกำลังซื้อภายใน   3.) โครงการ digital wallet  10,000 บาม เราแนะนำซื้อ ICHI(TP24F-23.20)  และ OSP(TP24F-31)

     DELTA +3.2%, HANA +3.3%, KCE +0.63% หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้น ตอบรับสถานการณ์ดอกเบี้ยขาลง แนะนำ DELTA(TP24F-86) 

     MINT +0.77% ปรับตัวขึ้นรับข่าว PMI ภาคการผลิตและบริการของยุโรป เดือน เม.ย.ขยายตัวดีกว่าคาด โดยเฉพาะภาคบริการขยายตัวต่อเนื่องและเหนือ 50 จุด รายละเอียด ประเมิน PMI ภาคบริการมีแนวโน้มดีต่อเนื่องถึง 3Q24 หนุนจากเหตุการณ์สำคัญช่วงตั้งแต่กลางปี 2024 ทั้งบอลยุโรปและโอลิมปิกฝรั่งเศส เป็นจิตวิทยาบวกหนุนหุ้นที่ทำธุรกิจเชื่อมโยงในยุโรป แนะนำ Buy MINT (TP24F-41.5) ซึ่งมีรายได้ในยุโรปราว 50%

     TOP +2.6%, SPRC +0.6% กลุ่มโรงกลั่นฟื้น มอง SPRC และ TOP เด่น ได้ประโยชน์จาก gasoline และ อะโรเมติกส์ ตามลำดับ คงมุมมองแนวโน้ม 2Q24F โดยโรงกลั่นกลับมาลดลง q-q ใน 2Q24F จากค่าการกลั่นปรับฐาน แนะนำ SPRC(TPF24-11) และ TOP(TP24F-78)

     BBL -1.1%, BAY -0.94% ปรับลงมีจิตวิทยาลบจากข่าว วานนี้นายกฯพบ 4 ธนาคารใหญ่ (KBANK, KTB, BBL, SCB) ขอให้ พิจารณาแนวทางช่วยเหลือประชาชนในส่วนความเดือดร้อนเรื่องดอกเบี้ยร่วมไปกับรัฐบาล

เก็งรอบสั้น

     นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยทางเทคนิค บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ดัชนียังคงสามารถประคองตัวเหนือระดับ 1355 จุด และยังสามารถปิดในแดนบวกได้ รักษารอบการฟื้นตัวรูปแบบ V-shape

     ทิศทางในระยะสั้นยังเป็นเชิงบวก หุ้นไทยพรุ่งนี้(25 เม.ย.67)มีลุ้นแกว่งตัวขึ้นต่อ แนวต้าน 1380 / 1400 จุด ส่วนแนวรับ 1330 / 1300 จุด กลยุทธ์ชะลอการลงทุน รอดูรอบการสร้างฐาน

     "หุ้นไทยยังเด้งรอบสั้น ดังนั้นจังหวะรีบาวด์เน้นขายทำรอบ เด้งขึ้นขาย เพราะยังไม่สามารถวางใจได้" 

 

อ่อนกำลังในรอบรีบาวด์

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า SET Index ภาพรายชั่วโมง ดัชนีเริ่มอ่อนกำลังในรอบการรีบาวด์โดยติดแนวต้านย่อยที่ 1365 จุด ขณะที่ MACD มีอัตราเร่งแดนลบลดลง และจ่อตัดลงต่ำกว่าเส้น Signal ระวังหากดัชนีไม่สามารถยืนเส้น EMA20 ได้ อาจกลับลงมาปิด Gap ด้านล่างที่ 1350 จุดอีกครั้ง

     กลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายแนะนำทยอยสะสมหุ้นที่มีสัญญาณกลับตัวชัดเจนหลังจากปรับตัวลงมาแรงก่อนหน้านี้ ตัดขาดทุนหากดัชนีไม่สามารถรักษาระดับเหนือ 1350 จุด เอาไว้ได้ มองแนวต้าน 1370 / 1375 จุด แนวรับ 1355 จุด 

     หุ้น CPAXT มุมมองทางเทคนิค ภาพรายวัน ราคาแกว่งตัวออกด้านข้าง แล้วสร้างฐานที่ 30.00 บาท ก่อนที่ MACD จะยกตัวขึ้น เป็นสัญญาณ Bullish Divergence จากนั้นราคา Breakout กรอบสะสม ลุ้นปรับตัวขึ้นโดยมี High ก่อนหน้าอยู่ที่บริเวณ 34.00 บาท

     ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Buy on Breakout ที่ 33.00 บาท ตั้งเป้าทำกำไรที่ 34.00 และ 36.00 บาท ตัดขาดทุนหากราคาลงมาต่ำกว่า 31.50 บาท

     หุ้น BBIK มุมมองทางเทคนิค ภาพรายวัน ราคาสร้างฐานที่แนวรับ 93.00 บาท แล้วไม่ท า New Low ก่อนที่จะแกว่งตัวออกข้างสะสมพลังในกรอบ ใกล้ที่จะเลือกทาง แต่จาก MACD ที่ เกิด Bullish Divergence และจ่อตัดขึ้นเส้น Signal ลุ้น Breakout ขึ้นเหนือ EMA20-EMA200 กลับสู่รอบทางขาขึ้น

     ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Buy on Breakout ที่ 97.00 บาท ตั้งเป้าทำกำไรที่ 100.00 และ 106.00 บาท ตัดขาดทุนหากราคาลงมาต่ำกว่า 93.00 บาท

     หุ้น SJWD มุมมองทางเทคนิค ภาพรายวัน ราคาพักตัวลงมาที่เส้น Trend Line แล้วยืนได้ ด้วยแท่งเทียนรูปแบบ Bullish Hammer สอดรับกับ MACD ที่จ่อตัดขึ้ นเหนือเส้น Signal คาดว่าจะเป็นการพักตัวจบแล้ว ลุ้นราคากลับไปทดสอบแนวต้าน High ก่อนหน้าที่ 16.70 - 17.00 บาท

     ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Buy on Dip ที่ 15.50 บาท ตั้งเป้าทำกำไรไว้ที่ 16.70 และ 17.00 บาท ตัดขาดทุนหากราคาลงมาต่ำกว่า 15.00 บาท