คลัง สั่ง ธอส. อัดสินเชื่อ 1.5 แสนลบ. กระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
พิชัย รมว.คลัง สั่ง ธอส. เร่งปล่อยสินเชื่อบ้านครึ่งปีหลัง 1.5 แสนล้าน พร้อม 4 มาตรการใหม่ ทั้งกู้ซื้อบ้าน ซ่อมแซม พัฒนาโครงการ และช่วยลูกหนี้ฟื้นตัว
นายพิชัย ซุณหวชิร รองนายกฐัมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอนโยบายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ เร่งปล่อยเชื่อใหม่ครึ่งหลังของปี 2568 เพื่ออัดเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจอีกกว่า 15000 ล้านบาท ภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโต ส่งอานิสงค์บวกต่อการจ้างงานและธุรกิจเกี่ยวเนื่องขยายตัวเพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้ารักษาบ้านให้คนไทย จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาด้านราย หลังประสบความสำเร็จรักษาบ้านให้คนไทยแล้วกว่า 373,000 บัญชี
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธอส. เปิดเผยว่า ธนาคารได้ดำเนินนโยบายตามแนวทางของกระทรวงการคลังและลดเป้าหมายกำไรลง เพื่อเน้นบทบาทด้านสังคม โดยออก 4 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่
สินเชื่อ Premier Home – สำหรับผู้มีกำลังซื้อสูง วงเงินกู้ตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้นเพียง 1.79% ต่อปี
สินเชื่อซ่อม-แต่ง และซ่อม-แต่ง Plus – วงเงินรวมสูงสุด 300,000 บาท ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.00% ต่อปี สำหรับการปรับปรุงและซื้ออุปกรณ์ที่อยู่อาศัย
สินเชื่อ Pre-Finance Premium – สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ศักยภาพ 27 จังหวัด ดอกเบี้ยปีแรก 3.90% ต่อปี
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ (DC3) – วงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่มเปราะบางที่กู้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดยลดดอกเบี้ยเหลือ 0% ใน 6 เดือนแรก ผ่อนเพียง 1,000 บาท/เดือน
ทั้งนี้ ธอส. ยังเดินหน้าช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยครึ่งปีแรก 2568 ช่วยให้ลูกค้ากว่า 373,000 บัญชีสามารถรักษาบ้านไว้ได้ และมีสถานะทางการเงินกลับมาปกติ
พร้อมกันนี้ ธอส. ยังส่งเสริมให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น ผ่านโครงการ บ้าน ธอส.–โรงเรียนการเงิน ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าออมเงินผ่านแอป GHB ALL GEN เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการกู้เงินในอนาคต โดยปัจจุบันมีผู้สมัครแล้วกว่า 220,000 ราย และได้รับสินเชื่อแล้วกว่า 50,000 ราย
นายกมลภพระบุว่า การดำเนินงานของ ธอส. สอดคล้องกับพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ควบคู่กับบทบาทในการเป็น Sustainable Bank ที่ส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน


