‘โอเลสเต้’ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

แบรนด์ไทย “โอเลสเต้” ที่มุ่งสร้างนวัตกรรมให้แก่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่างและโดดเด่น รวมถึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้วัตถุดิบหลักจากประเทศไทย และจะมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ นวัตกรรมบำรุงผิว

“กันต์ธร ตรงฉาก” ผู้ช่วยประธานกรรมการ บริษัท มาย่า แอนด์ โค ผู้บริหารแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว “โอเลสเต้” (O’leste’) เปิดเผยว่า แบรนด์ “โอเลสเต้” ที่ได้มุ่งนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทุกรายการ และต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด

แบรนด์ “โอเลสเต้” ในปัจจุบันมีจำนวน 6 รายการ มีส่วนผสมหลักมาจากสารสกัดจากดอกดาวเรือง ที่ได้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่มีการทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้ทำวิจัยเป็นเวลาประมาณ 4 ปี เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

การนำสารสกัดจากดอกดาวเรือง มาสู่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ถือว่า โอเลสเต้ ได้ทำเป็นรายแรกของประเทศไทย และยังไม่มีใครทำมาก่อนเช่นกัน รวมถึงผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยอย่างมาก และมีคุณสมบัติที่พิเศษ

ทั้งนี้ การนำดาวเรือง มาสกัดสู่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นดาวเรืองสายพันธุ์พิเศษ ที่บริษัทมีเครือข่ายการปลูกในประเทศไทย จึงส่งผลดีต่อเกษตรกรที่จะมีรายได้จากการปลูกดอกดาวเรืองเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทมีทีมวิจัยในองค์กร รวมถึงความร่วมมือกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์

ต่อมายังมีผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ที่มีคุณสมบัติสามารถปกป้องผิวจากทุกรังสี รวมถึงรังสีสีฟ้า ที่มาจากการใช้งานจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน รวมถึงส่วนผสมจากครีมกันแดด ที่เป็นนาโนเทคโนโลยีเช่นกัน ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่มีใครทำมาก่อนในประเทศไทย

“บริษัทต้องการที่จะสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เป็นแบรนด์ไทย เป็นสินค้าที่มีนวัตกรรม และความแตกต่าง รวมถึงต้องการทำให้ทุกสินค้ามีนวัตกรรมและตรงกับความต้องการของลูกค้า” กันต์ธร กล่าว

แบรนด์ได้เริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในประเทศไทยแล้ว ทั้งการร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีแผนออกงานแสดงสินค้าในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงมีช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านร้านค้าในประเทศ กลุ่มร้านค้าเพื่อความงามและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์

อีกทั้งยังมีการส่งออกสินค้าไปตลาดต่างประเทศ โดยได้มีการส่งออกไปตลาดประเทศมาเลเซียแล้ว ซึ่งลูกค้าชาวมาเลเซียให้การตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมแล้วมีความชื่นชอบและตรงกับความต้องการ รวมถึงมีแผนขยายตลาดส่งออกไปในประเทศ ทั้งจีน และอินเดีย เพราะเป็นประเทศที่ชื่นชอบสินค้าจากประเทศไทยอยู่แล้ว

“ตลาดรวมผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและบำรุงผิว กำลังเข้าสู่เทรนด์การเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยงาม และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีมาเป็นส่วนประกอบด้วย” กันต์ธร กล่าว

บริษัทมีแผนขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว “โอเลสเต้” ออกมาสู่ตลาดเพิ่มขึ้น พร้อมกับสร้างนวัตกรรมให้แก่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ไทยให้โดดเด่นมากที่สุดในตลาดโลก

“โอเลสเต้” แบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไทย เชื่อมั่นว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีจะเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนในระยะยาว