posttoday

หนุน'เอสเอ็มอีไทย'เติบโต

18 ตุลาคม 2559

สสว.ย้ำให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีในทุกด้านเต็มที่ ผู้ประกอบการเข้ามาปรึกษาได้ต่อเนื่อง ย้ำยึดคำสอนในหลวงเศรษฐกิจพอเพียง

สสว.ย้ำให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีในทุกด้านเต็มที่ ผู้ประกอบการเข้ามาปรึกษาได้ต่อเนื่อง ย้ำยึดคำสอนในหลวงเศรษฐกิจพอเพียง

นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้ที่ความรู้สึกของประชาชนในประเทศไทยอยู่ในภาวะเศร้าโศก และมีการชะลอทำกิจการบางส่วนออกไปก่อน นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ว่า ในภาวะที่ทุกคนในประเทศกำลังอยู่ในช่วงเศร้าโศก แต่เศรษฐกิจไทยจะต้องเดินหน้าต่อไป โดยหน่วยงาน สสว.จะต้องมุ่งทำหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่

สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่กำลังประสบปัญหาทางธุรกิจหรือต้องการปรึกษาในด้านต่างๆ สามารถเข้ามาปรึกษาและเข้ามาร่วมโครงการต่างๆ ของ สสว.ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง สสว.จะดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างดีที่สุด รวมทั้งอยากให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีมุ่งทำหน้าที่ของตัวเอง เพื่อร่วมผลักดันให้ธุรกิจและเศรษฐกิจสามารถ ขับเคลื่อนต่อไป

นางสาลินี กล่าวต่อว่า ในวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา สสว.ได้มีการประชุมหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เรื่องการผลักดันกองทุนฟื้นฟูกิจการเอสเอ็มอี วงเงิน 2,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจ ซึ่งได้มีการหารือเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หลังจากนั้นจะต้องนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมการ (บอร์ด) สสว. ซึ่งจะมีการประชุมบอร์ด สสว. ในวันที่ 16 พ.ย. 2559 ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

ทั้งนี้ กองทุนฟื้นฟูกิจการเอสเอ็มอี วงเงิน 2,000 ล้านบาท ประเมินว่าจะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านการอุดหนุนในรูปแบบต่างๆ โดยกองทุนมี การจัดตั้งคณะอนุกรรมการฟื้นฟูกิจการ เอสเอ็มอี ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานในชุดนี้ นอกจากนี้ สสว.กำลังรวบรวมข้อมูลการปล่อยกู้กองทุนพลิกฟื้นวิสาหกิจขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ว่าใน ขณะนี้มีผู้ประกอบการได้เข้าร่วมโครงการจำนวนเท่าใดแล้ว

"ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องต่างๆ โครงการของภาครัฐยัง ส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่ และ สสว.ก็ยังไม่หยุดทำหน้าที่ จะมุ่งให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี" นางสาลินี กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในภาวะที่สถานการณ์ของประเทศผู้ประกอบการและผู้บริโภคกำลังอยู่ใน ช่วงเศร้าโศกนั้น อยากให้ผู้ประกอบการทุกคนตระหนักถึงการนำหลักคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรื่องหลักเศรษฐกิจพอเพียง นำมาปรับใช้ในธุรกิจ ทั้งมุ่งทำธุรกิจด้วยความเข้มแข็ง พร้อมกับมุ่งช่วยเหลือตัวเองให้ดีที่สุด

ด้านธุรกิจขนาดกลางควรจะต้องติดตามสถานการณ์ในประเทศอย่าง ใกล้ชิด ในภาวะที่ผู้บริโภคยังระมัดระวังใช้จ่ายอยู่ ส่วนผู้ประกอบการส่งออกเชื่อว่าตลาดส่งออกในต่างประเทศยังสามารถดำเนินกิจการส่งออกได้ต่อไป เพราะตลาดในประเทศยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง นอกจากนี้ผู้ประกอบการต้องมุ่งติดตามสถานการณ์ในโลก และมุ่งตลาดออนไลน์ อี-คอมเมิร์ซ เพื่อปรับธุรกิจให้พร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆ ให้ได้