posttoday

กระทรวงอุตฯเผยผลสำเร็จ "เอสเอ็มอีสปริงอัพ" เพิ่มมูลค่าศก.กว่า100ล้าน

10 ตุลาคม 2559

กระทรวงอุตสาหกรรมเผยโครงการเอสเอ็มอี สปริงอัพ รุ่น1 เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท ลุยจัดรุ่น 2-3 ต่อเนื่อง

กระทรวงอุตสาหกรรมเผยโครงการเอสเอ็มอี สปริงอัพ รุ่น1 เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท ลุยจัดรุ่น 2-3 ต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดโครงการส่งเสริมศักยภาพเอสเอ็มอีผ่านโครงการ เอสเอ็มอี สปริงอัพ (SMEs Spring Up) ซึ่งเป็นการรวบรวมผู้บริหารภาคเอกชนชั้นนำขนาดใหญ่ของประเทศ อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) , บริษัทเอสซีจี จำกัด (มหาชน), บริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) มาร่วมถ่ายทอดบทเรียนทั้งในด้านการบริหาร การจีดการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม

ทั้งนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วจำนวน 1 รุ่น เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผลที่ได้รับคือ ทำให้เอสเอ็มอี ที่เข้าร่วมโครงการกว่า 110 ราย เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจต่อกันและมีการซื้อขายระหว่างกันทันทีกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มผลิตภาพสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆและยกระดับมาตรฐานภาคอุตสาหกรรมให้สูงขึ้น คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท

ดร.อรรชกา กล่าวว่า จากความสำเร็จของโครงการในรุ่นที่ 1 กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเดินหน้าเปิดอบรมในรุ่นที่ 2 และ 3 รุ่นละ 100 ราย ต่อเนื่องทันที โดยเริ่มอบรมระหว่างวันที่ 26 ต.ค.-26 พ.ย.นี้ รวมทั้งขยายผลต่อไปยังผู้ประกอบการที่อยู่ในภูมิภาคโดยการจัดโครงการSMEs Spring Up สัญจร ที่จังหวัดเชียงใหม่ และอุดรธานี ภายในเดือนพ.ย.นี้

กระทรวงอุตฯเผยผลสำเร็จ "เอสเอ็มอีสปริงอัพ" เพิ่มมูลค่าศก.กว่า100ล้าน ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม

สำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมอบรมครั้งนี้ ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค กลุ่มสุขภาพและเคมีภัณฑ์ กลุ่มดิจิทัล และกลุ่มครีเอทีฟและบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าหลังจากจบโครงการจะทำให้เอาเอ็มอีเกิดแนวคิดและมุมมองใหม่ๆ ในการทำธุรกิจจากขนาดเล็กให้ก้าวไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่ได้ในอนาคต มีการต่อยอดธุรกิจร่วมกัน เกิดเป็นเครือข่ายธุรกิจที่มีการซื้อขายสินค้าระหว่างกัน สามารถวิเคราะห์ปัญหาเชิงลึกเพื่อลดต้นทุนการตผลิตได้ เกิดการเรียนรู้จากต้นแบบองค์กรที่มีประสิทธิภาพจนสามารถนำแนวทางต่างๆมาพัฒนาด้านผลิตภาพมาตรฐานและนวัตกรรม เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระดับสากลต่อไป

"คาดว่าหลังจากจบโครงการจะทำให้ เอสเอ็มอี สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 10% อย่างแน่นอน"รมว.อุตสาหกรรมกล่าว

กระทรวงอุตฯเผยผลสำเร็จ "เอสเอ็มอีสปริงอัพ" เพิ่มมูลค่าศก.กว่า100ล้าน

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่ปรึกษา รมว.อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตรโครงการSMEs Spring Up ประกอบไปด้วยโครงสร้างหลัสูตร 4 หมวดได้แก่

1.หมวดนโยบายของรัฐกับการส่งเสริม SMEs ผู้บริหารจะด้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวนโยบายของรัฐในการผลักดันธุรกิจ SMEs และสามารถวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่มีต่อองค์กรธุรกิจของตน รวมทั้งสามารถกำหนดยุทธศาสตร์ขององค์กรธุรกิจของตัวเองให้รับมือความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นได้

2.หมวด SMEs กับการต่อยอดมาตรฐาน ผลิตภาพและนวัตกรรม ผู้บริหารจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญในการนำมาตรฐาน ผลิตภาพ และนวัตกรรมมาใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการแข่งขันจากองค์กรธุรกิจต้นแบบเพื่อต่อยอดการพัฒนาธุรกิจ SMEs ให้ประสบความสำเร็จในระดับสากล

3.หมวดผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับแนวคิดการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ดี สามารถพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเพิ่มผลิตภาพ สู่การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

4.หมวดการเสริมสร้างประสบการณ์ผู้ประกอบการเชิงประจักษ์ เป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้ผู้บริหารที่เข้าร่วมโครงการทำกิจกรรมศึกษาดูงานองค์กรด้านมาตรฐาน ผลิตภาพ และ นวัตกรรม รวมถึงกิจกรรมเวิร์คช็อป Discuss Coaching เชื่อมโยงนโยบายรัฐ ตลอดจนการระดมสมองเพื่อสรุปข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศและพัฒนาSMEsไทย

ด้านนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการบริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ SMEs Spring Up ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับเศรษฐกิจของประเทศและนับเป็นโอกาสอันดีที่ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างจริงจัง โโยผู้ประกอบการเหล่านี้จะได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้แนวปฏิบัติของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เพื่อนำไปปรับใช้และแสวงหาโอกาสร่วมกันในการพัฒนาธุรกิจ เช่นการต่อยอดความคิดและนวัตกรรมใหม่ๆ การสนับสนุนด้านเงินทุน รวมทั้งเครือข่ายทางการตลาด

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักพัฒนาผู้ประอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระราม 6 กรุง
เทพฯ โทรศัพท์ 0-2202-4531, 0-2202,4578 หรือที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr

คลิป นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่ปรึกษา รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงหลักสูตรโครงการSMEs Spring Up

 

 

 

กระทรวงอุตฯเผยผลสำเร็จ "เอสเอ็มอีสปริงอัพ" เพิ่มมูลค่าศก.กว่า100ล้าน