กูลิโกะทุ่มผลิตไอศกรีมเพิ่ม3เท่า หวังขยายตลาดในไทย

กูลิโกะทุ่มเกือบพันล้าน ผลิตไอศกรีมเพิ่ม 3 เท่า หวังขยายตลาดในไทยไปเขตนอกเมือง-ชนบท

นิตยสารนิกเกอิ เอเชียน รีวิว เปิดเผยว่า บริษัท เอซากิ กูลิโกะ ผู้ผลิตขนมและไอศกรีมสัญชาติญี่ปุ่น เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตไอศกรีมที่วางจำหน่ายในไทยเป็น 3 เท่า ด้วยการลงทุนเพิ่มราว 2,000-3,000 ล้านเยน (ราว 600-900 ล้านบาท) ภายในปี 2563 เพื่อขยายตลาดในไทย ควบคู่ไปกับการกระจายเครือข่ายไปยังเขตชานเมืองและชนบทในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

นิกเกอิ ระบุว่า ปัจจุบันกูลิโกะมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 7% เมื่อเทียบกับไอศกรีมภายใต้แบรนด์ของยูนิลีเวอร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 60% โดยกูลิโกะวางแผนที่จะขยายร้านค้าที่วางจำหน่ายเป็น 2 หมื่นแห่ง หลังที่ผ่านมาเริ่มวางจำหน่ายในร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งกูลิโกะเป็นผู้จัดหาตู้ไอศกรีมให้กับร้านค้าเหล่านั้น

ก่อนหน้านี้ กูลิโกะได้เปลี่ยนอะไหล่เครื่องจักรใหม่ในโรงงานของซับคอนแทรกเตอร์ และยังได้เพิ่มเครื่องจักรเพื่อรองรับการผลิตเพิ่มอีกด้วย

ทั้งนี้ กูลิโกะเริ่มบุกตลาดไอศกรีมในไทยเมื่อเดือน ม.ค. 2016 โดยลดขนาดไอศกรีมหลักของแบรนด์ คือ ไจแอนท์ โคน และพาลิตเต้ ลงจากปกติราว 30-40% เพื่อวางจำหน่ายในประเทศไทยโดยเฉพาะ ด้วยราคา 30-35 บาท โดยวางแผนรุกกลุ่มธุรกิจไอศกรีมในต่างประเทศประเดิมไทยเป็นตลาดแรก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางในอาเซียนและสร้างรายได้สูงที่สุด ก่อนจะบุกตลาดอินโดนีเซียเป็นประเทศต่อไป

ด้านนิกเกอิ ระบุด้วยว่า ความนิยมในแบรนด์อาหารญี่ปุ่นกำลังเพิ่มขึ้นทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังชาวไทยนิยมไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น โดยในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัท อาคากิ นิวเกียว ผู้ผลิตไอศกรีมหวานเย็น การิการิคุง ได้จับมือกับบริษัท เฟรเซอร์แอนด์นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) ในเครือไทยเบฟเวอเรจ เพื่อผลิตไอศกรีม และใช้ไทยเป็นศูนย์จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังทั่วภูมิภาค

นอกจากนี้ บริษัท อาคากิ นิวเกียวตั้งเป้าหมายจะผลิตไอศกรีมจาก 10ล้านแท่ง ภายในสิ้นปี 2017 นี้ เพิ่มเป็น 68 ล้านแท่ง ภายในปี 2020 โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นในใจกลางกรุงเทพฯ ก่อนขยายไปยังเขตชานเมือง