posttoday

กับดักดิจิทัลมาร์เก็ตติง กูรูแนะเคล็ดสร้างธุรกิจยั่งยืน

24 มิถุนายน 2560

เมื่อ ดิจิทัล ดิสรัปชั่น เข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้กับธุรกิจต้องปรับตัว ธุรกิจไทยต่างมุ่งไปสู่การทรานส์ฟอร์ เมชั่น

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

เมื่อ ดิจิทัล ดิสรัปชั่น เข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้กับธุรกิจต้องปรับตัว ธุรกิจไทยต่างมุ่งไปสู่การทรานส์ฟอร์ เมชั่น องค์กรแห่ลงทุนทางด้านเทคโนโลยี ดำเนินกลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอาจนำมาซึ่งการทำให้ธุรกิจต้องติดกับดักจากการปรับธุรกิจสู่ยุค 4.0

บุญเลิศ นราไท กรรมการผู้อำนวยการดิจิทัล โซลูชั่น บริษัท เออาร์ไอที เปิดเผยว่า เหตุผลที่สินค้าและบริการต้องทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 46 ล้านคน และใช้ โซเชียลมีเดีย 46 ล้านคน รวมไปถึงการใช้โทรศัพท์มือถือเข้าสู่โลกออนไลน์ทั้งเล่นโซเชียล ยูทูบ และกูเกิล ทั้งกลุ่มเจเนอเรชั่นเบบี้บูมเมอร์ เอ็กซ์และวาย โดยเฉลี่ย 6.4 ชั่วโมง

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือธุรกิจเกิดคู่แข่งหน้าใหม่ขึ้นทุกวัน อุตสาหกรรมรถยนต์ต้องเผชิญกับการแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้า และต่อไปในอนาคตคู่แข่งของโตโยต้าจะไม่ใช่ฮอนด้าอีกต่อไป แต่จะเป็นกูเกิล ซึ่งปัจจุบันทดลองรถยนต์ไร้คนขับแล้ว ขณะที่การทำตลาดมีความยากมากขึ้น ผู้บริโภคกลับไม่เชื่อแบรนด์ แต่คนเชื่อคนด้วยกัน เวลาซื้อสินค้าต้องดูการรีวิวก่อน

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาทุกคนพูดถึงการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งจำนวนมาก แต่นักการตลาดกลับติดกับดักดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง คือ 1.ไม่ควรมองดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเหมือนเวทมนตร์ใส่อะไรก็ขายได้ มองว่าแค่ลงทุนลงไปก็สามารถขายของ ได้ จริงๆ คือเป็นดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเป็นแค่เครื่องมือการทำตลาดเท่านั้น หรือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการเข้าถึงลูกค้า 2.เมื่อทำดิจิทัลแล้วไม่จำเป็นต้องทำตลาดออฟไลน์อีกต่อไป นับเป็นกับดักที่ผิด ยกตัวอย่างเช่น อะเมซอนเป็นอี-คอมเมิร์ซที่ขายหนังสือเจ้าแรกของโลก แต่ปีนี้ได้เปิดออฟไลน์หรือเปิดหน้าร้านแล้ว

ตามด้วยกับดักดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง 3.โมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไม่ได้หมายความว่า เมื่อเราทำแล้วจะประสบความสำเร็จ แต่ให้มองว่าเป็น กระบวนการคิดและนำมาปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจได้เหมาะสมมากกว่า 4.เมื่อทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งแล้ว อย่าสนใจแต่การเอนเกจเมนต์หรือการเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค สิ่งสำคัญแบรนด์ต้องสร้างยอดขาย ซึ่งแบรนด์หรือสินค้าส่วนใหญ่ต้องการให้มีผู้เห็นเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่สนใจทางด้านยอดขาย

"สูตรไม่ลับสำหรับการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งคือ ต้องเข้าใจตัวเอง เริ่มต้นจากถามก่อนว่าทำทำไม และควรใช้แพลตฟอร์มไหนสำหรับการทำตลาด เช่น ถ้าเป็นช่างประปาต้องซื้อคีย์เวิร์ดจากกูเกิล เพราะคนจะค้นหากูเกิล มากกว่าจะค้นหาทางเฟซบุ๊กในกรณีที่ท่อประปาแตกระหว่างการสร้างเว็บไซต์แบรนด์ดอทคอมขึ้นมาเองกับการทำนำสินค้าไปจำหน่ายในช่องมาร์เก็ตเพลสควรเลือกช่องทางไหน เพื่อทำให้เข้าถึงคนได้วงกว้างมากกว่ากัน" บุญเลิศ กล่าว

ขณะเดียวกัน ยังต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและเข้าใจการสื่อสาร เพราะยุคนี้เป็นการแข่งขันดึงความสนใจ เช่น กลุ่มมิลเลนเนียลจะไม่ดูโฆษณาจากเว็บแบนเนอร์ เนื้อหาต้องดึงความสนใจภายใน 5 วินาที ดังนั้นเวลาเขียนคอนเทนต์ต้องกระชับ ง่าย เนื้อหาสาระภายใน 3 บรรทัดต้องรู้เรื่องเพราะทุกคนไม่รอ ถ้าทำคอนเทนต์อีโมชันนัล ต้องทำไวรัล คลิปวิดีโอ การใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ส

โสภา พิมพ์สิริพาณิชย์ เจ้าของ ผ้าพันคอแบรนด์โซอี้สคาร์ฟ กล่าวว่า คีย์ซักเซสของการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งต้องสังเกตพฤติกรรมลูกค้า การทำคอนเทนต์ต้องมีคุณภาพมากกว่าจะโพสต์ในเชิงปริมาณ สร้างคีย์เวิร์ดเมื่อลูกค้าค้นหาแล้วต้องเจอ

สำหรับการใช้แพลตฟอร์มเฟซ บุ๊ก มองว่าจะให้ผลดีในแง่การสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ ส่วนอินสตาแกรม เปรียบเหมือนแค็ตตาล็อก และสะท้อนถึงแบรนด์อิมเมจ ขณะที่ไลน์เป็น เรื่องของการปิดการขาย สร้างความน่าเชื่อถือ

ปัญหาของผู้ดำเนินธุรกิจขนาดกลางและย่อม หรือเอสเอ็มอีไทยที่มีราว 2.78 ล้านราย ต่างทยอยล้มหายตายจากไป ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ ซึ่งการทรานส์ฟอร์เมชั่นไม่ได้หมายถึงการแค่นำเงินไปลงทุนทางเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ที่สำคัญคือวิธีการคิดของทรัพยากรบุคคลต้องปรับเปลี่ยนให้สอดรับยุคดิจิทัล

หากจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ อย่างน้อยต้องผลักดันให้ธุรกิจเป็นท็อปไฟว์ให้ได้ มิเช่นนั้นโอกาสแจ้งเกิดจะน้อยลง รวมทั้งใช้นวัตกรรมนำทาง ช่วยสร้างความยั่งยืนให้แบรนด์ในยุคดิจิทัล