posttoday

เอสซีจีลุ้นไตรมาส2โต

06 พฤษภาคม 2560

เอสซีจี ระบุตลาดปูนซีเมนต์ไตรมาส 2 เห็นสัญญาณฟื้นตัว หลังจากไตรมาสแรกปีนี้ยังซึม เดินหน้าออกสินค้านวัตกรรมดันยอด

เอสซีจี ระบุตลาดปูนซีเมนต์ไตรมาส 2 เห็นสัญญาณฟื้นตัว หลังจากไตรมาสแรกปีนี้ยังซึม เดินหน้าออกสินค้านวัตกรรมดันยอด

นายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดปูนซีเมนต์ในไตรมาส 2 หลังจากผ่านเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสแรกที่ยังคงซบเซา เนื่องจากเห็นความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ที่ชัดเจนมากขึ้นในการก่อสร้างของภาครัฐและเอกชน แต่ทั้งนี้จะต้องดูว่าปัจจัยลบด้านอื่นจะมากระทบในไตรมาส 3 หรือไม่เนื่องจากเป็นหน้าฝน

"ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้างในปีนี้ ค่อนข้างทรงตัว อย่างไรก็ตาม ยังมองเห็นปัจจัยบวก ได้แก่ การลงทุนพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐส่งผลให้เมืองขยายตัว ทำให้เกิดการก่อสร้างบ้าน และคอนโดตามมา อีกทั้งเห็นปัจจัยบวกจากการที่ราคาทางการเกษตรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ในปีนี้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น" นายนิธิ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทจึงได้เดินหน้าวิจัยและเปิดตัวนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม High Value Added (HVA) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน พร้อมกับการฉลองครบรอบ 100 ปี ปูนซีเมนต์ตราเสือ ซึ่งจะมุ่งเน้นให้เป็นปูนที่มีนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีขึ้น พร้อมกับเป็นการยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานด้านปูนซีเมนต์ให้พัฒนาขึ้นไป และยังเตรียมเปิดแฟล็ก ชิปดิสเพลย์ ขึ้นที่เอสซีจี เอ็กซ์พีเรียนซ์ ในช่วงปลายปีนี้ด้วย

นายนิธิ กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เสือ มอร์ตาร์ สูตรแพลทินัม เอ็กซ์เพิร์ท ซึ่งเป็นนวัตกรรมปูนซีเมนต์เพื่องานฉาบที่คิดค้นมาเพื่อแก้ปัญหารอยแตกร้าว มีความทนทานจากสภาพอากาศ ซึ่งเป็นสินค้าที่จดสิทธิบัตรและได้รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายว่าภายในเวลา 5 ปี นับจากปีนี้สัดส่วนยอดขายปูนสูตรดังกล่าวจะเติบโต 12% หรือมีสัดส่วน 1.2 ล้านตัน จากปัจจุบันตลาดปูนฉาบโดยรวมนั้นมีมูลค่า 7-12 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปี 2559

สำหรับงานสถาปนิก'60 ที่จะขึ้นระหว่างวันที่ 2-7 พ.ค.นี้ ที่ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานีนั้น บริษัทเน้น การโชว์นวัตกรรมการสร้างที่อยู่อาศัย อาทิ การสร้างสภาวะอยู่สบาย พัฒนาการอยู่อาศัยให้อยู่สบายมากยิ่งขึ้นในทุก ด้าน เช่น บ้านที่มีอุณหภูมิภายในบ้านเหมาะสม ไม่เกิดการกักเก็บความร้อน การโซลูชั่นที่จะสามารถตอบโจทย์สมาชิกทุกเพศทุกวัยภายในบ้านให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี และการพัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้างและวัสดุต่างๆ เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น