posttoday

"โค-เวิร์กกิ้งสเปซ" ส่อเริ่มล้นตลาด การใช้งานเพี้ยน

16 มกราคม 2560

ฮับบ้าชี้ธุรกิจโค-เวิร์กกิ้ง สเปซไทยล้นตลาด ผู้ประกอบการแห่เปิดเพียบทำเหมือนร้านกาแฟแต่ผิดวัตถุประสงค์ใช้งาน

ฮับบ้าชี้ธุรกิจโค-เวิร์กกิ้ง สเปซไทยล้นตลาด ผู้ประกอบการแห่เปิดเพียบทำเหมือนร้านกาแฟแต่ผิดวัตถุประสงค์ใช้งาน

นายชาร์ล เจริญพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานอำนวยการร่วม บริษัท ฮับบ้า ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจโค-เวิร์กกิ้ง สเปซไทยในปัจจุบันมีอยู่เกิน 100 แห่ง โดยแต่ละแห่งมีพื้นที่ประมาณ 200-300 ตารางเมตร ภาพรวมจึงถือว่าโอเวอร์ซัพพลาย ล้นเกินความต้องการของผู้ที่ใช้งาน และส่วนใหญ่ทำในรูปแบบร้านกาแฟ รวมทั้งมีวัตถุประสงค์ไม่ตรงกับการใช้งาน

"จากปี 2555 โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ มีอยู่ 3 แห่ง ปี 2557 มี 14 แห่ง ปี 2558 มีเกิน 40 แห่ง เมื่อปี 2559 มีมากกว่า 100 แห่ง เริ่มโอเวอร์ซัพพลายแล้ว และกระจายอยู่ในทุกที่เลย เอกมัย-ทองหล่อ ก็มี 3-4 แห่ง แต่จะกระจุกตัวอยู่บริเวณสีลม สาทร และอารีย์"

สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพจะไม่นิยมใช้โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ เพราะว่าเขาจะต้องประหยัดเงิน เนื่องจากเขาเหล่านั้นไม่ทราบว่ากำลังจะสร้างธุรกิจอะไร การทำธุรกิจสตาร์ทอัพในช่วงเริ่มต้นการมาใช้โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ จึงไม่ตอบโจทย์ในแง่ที่เขาจะต้องประหยัดเงิน แต่ในทางกลับกันสตาร์ทอัพที่รู้ตัวตนแล้วว่า กำลังดำเนินธุรกิจอะไรอยู่ ประมาณการในเบื้องต้นสตาร์ทอัพมีอยู่ประมาณ 500 ราย มีประมาณ 5% หรือประมาณ 25 ทีม จะมาใช้พื้นที่โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ ถือเป็นสตาร์ทอัพที่รู้ว่ากำลังดำเนินธุรกิจอะไรและมีประสบการณ์ในการทำงาน

"โค-เวิร์กกิ้ง สเปซนั้น เหมาะกับคนที่ทำธุรกิจฟรีแลนซ์ คนที่ทำธุรกิจแต่ยังไม่ต้องการมีออฟฟิศเป็นของตนเอง หรือคนทำงานที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ที่ภายในจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ การจัดสัมมนาให้ความรู้ แต่ปัจจุบันจะพบว่าผู้ประกอบการไทยจะทำโค-เวิร์กกิ้ง สเปซ ภาพกลายเป็นร้านกาแฟ แต่ในต่างประเทศบรรยากาศการทำงานนั้นไม่เหมือนกับในประเทศไทย คนที่นั่นจะมีการเช่าโต๊ะทำงานเป็นปี ส่วนในเมืองไทยถือว่าเพิ่งเริ่มเป็นไลฟ์สไตล์อยู่"

ปัจจุบัน ฮับบ้า เปิดให้บริการอยู่ 3 แห่ง ที่เอกมัยซอย 4 สยามดิสคัฟเวอร์รี่ และฮับบ้าโตะ ที่ร่วมกับบริษัท แสนสิริ ตั้งอยู่สุขุมวิท 77