posttoday

บินไทยสยายปีกเปิด2เส้นทางใหม่

23 กันยายน 2559

การบินไทยสยายปีก 2 เส้นทางครั้งแรกหลังหยุดเลือดในรอบ 2 ปี ปัดฝุ่นกรุงเทพ-เตหะราน ดีเดย์1ต.ค.และกรุงเทพ-มอสโควภายในเดือนพ.ย.

การบินไทยสยายปีก 2 เส้นทางครั้งแรกหลังหยุดเลือดในรอบ 2 ปี  ปัดฝุ่นกรุงเทพ-เตหะราน ดีเดย์1ต.ค.และกรุงเทพ-มอสโควภายในเดือนพ.ย.  

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเส้นทางการบินใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางไปกลับ กรุงเทพ-เตหะราน ประเทศอิหร่าน เริ่มให้บริการวันที่ 1 ต.ค.นี้ สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน และเส้นทางไปกลับกรุงเทพ-มอสโคว เริ่มให้บริการวันที่ 15 พ.ย.นี้ สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ของขยายเส้นทางหลังบริษัทอยู่ในแผนปฏิรูปองค์กร ระยะที่ 2 การเปิดเส้นทางการบินภายหลังหยุดการขาดทุนจากบริหารจัดการ โดยมองว่าเตหะรานเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพเป็นประเทศที่มีจีดีพีระบบเศรษฐกิจเติบโต ช่วงแรกเน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาต่อเครื่องในไปไปยังประเทศอิหร่าน ตั้งเป้ามีอัตราที่นั่งเฉลี่ยช่วงแรก 80% ขณะที่แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวของตลาดรัสเซียจะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยตามปกติในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น)ที่ถึงนี้

ทั้งนี้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์แผนการตลาดด้านแผนตารางการบินอย่างน้อย 6 เดือน/ปี  จากเดิมเฉลี่ย 4 เดือน/ปี โดยการเปิด 2 เส้นทางการบิน ทำการบินด้วยเครื่องโบอิ้ง  777-200 รวมถึงเพิ่มความถี่เส้นทางการบินที่ให้บริการอยู่แล้ว พร้อมปรับเปลี่ยนลำตัวเครื่องบินให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น เส้นทางการบินกรุงเทพ-ลอนดอน จากเดิมใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747 และแอร์บัส 340 ความจุรวม 670ที่นั่ง/วัน เป็นเครื่องบินแอร์บัส 380 และโบอิ้ง 777 ทดแทนมีที่นั่งเพิ่มเป็น 850คน/วัน อัตราที่นั่งเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 50% ต่อเที่ยวบิน เป็นต้น รวมถึงการใช้เครื่องบินเต็มกำลังความสามารถทางการผลิตเฉลี่ย 13 ชั่วโมง/วัน เทียบจากครึ่งปีแรกเฉลี่ย 11 ชั่วโมง/วัน การใช้เครื่องบินเต็มความสามารถครั้งนี้ทำให้บริษัทประหยัดการขยายฝูงบินได้ถึง 7 ลำ โดยแผนกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้การบินไทยสามารถเพิ่มกำลังผลิตภัณฑ์และการบริการที่นั่งผู้โดยสารช่วงตารางฤดูหนาวเดือนต.ค.นี้-มี.ค.ปีหน้า เฉลี่ย 5.7%

“ภาพรวมธุรกิจการบินไทยช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาสามารรถหยุดการขาดทุนได้ และมีกำไรสุทธิช่วงไตรสมาสที่ 2 กว่า 2,000ล้านบาท แม้ว่าจะมีกำไรต่อที่นั่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะสายการบินทั่วโลกต่างใช้กลยุทธ์ตัดราคามาแข่งขัน แต่การเปลี่ยนเครื่องบินใหม่ในหลายเส้นทาง รวมถึงการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย การขายในลักษณะบียอนพ่วงหลายประเทศแต่ละเส้นทาง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ปัจจัยดังกล่าวบริษัทได้อานิสงส์ และเชื่อว่าไฮซีซั่นและครึ่งปีแรกจะมีกำไร และมีรายได้โตประมาณ 5.7% เท่ากับจำนวนที่นั่งที่เพิ่มขึ้น”นายจรัมพร กล่าว

อย่างไรก็ตามตลอดปีนี้คาดว่าอัตราที่นั่งเฉลี่ยที่ 75% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ส่วนความคืบหน้าการขอไลเซ่นเปลี่ยนขนาดเครื่องบินเส้นทางกรุงเทพ-เมลเบิร์น เป็นเครื่องบินแอร์บัส 350 ขณะนี้รอใบอนุญาต หากได้ตามระเบียบบริษัทจะเร่งให้บริการทันที เพราะเส้นทางการบินเฉลี่ยที่ 9 ชั่วโมง ถือเป็นจุดขายที่การบินไทยมีความแข็งแกร่งในตลาดการบิน