เอกชนรุมค้านปรับขึ้นค่าแรง
ภาคเอกชนไม่เห็นด้วยการปรับขึ้นค่าแรง 360 บาท/วันทั่วประเทศ หวั่นกระทบยาวเป็นลูกโซ่
ภาคเอกชนไม่เห็นด้วยการปรับขึ้นค่าแรง 360 บาท/วันทั่วประเทศ หวั่นกระทบยาวเป็นลูกโซ่
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า หากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 360 บาท/วัน ถือว่าสูงเกินไป และในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีจะมีผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างมาก และอาจทำให้โรงงานปิดตัวเพิ่มมากขึ้น
นายธนิต กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงต้องพิจารณาภาวะเงินเฟ้อ ความสามารถการจ่ายค่าแรงนายจ้างในแต่ละพื้นที่ และหากปรับขึ้นเท่ากันทั่วประเทศจะทำให้โรงงานในต่างจังหวัดไม่สามารถจ่ายค่าแรงเพิ่มได้
“ปัจจุบันแรงงานกลุ่มมีทักษะก็ได้ค่าแรงกว่า 360 บาท/วันอยู่แล้ว หากปรับขึ้นระดับล่างก็จะกระทบเป็นลูกโซ่กับค่าแรงระดับกลางและระดับบน” นายธนิต ระบุ
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทไม่เห็นด้วยเพราะจะส่งให้เศรษฐกิจขยายตัวช้า สินค้าไทยจะแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ เพราะต้นทุนสูง อีกทั้งมีโอกาสที่ผู้ประกอบการต่างชาติจะย้ายฐานการลงทุน
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า หากปรับขึ้นค่าแรงสูงกว่าในระดับปัจจุบัน ไทยอาจสูญเสียแรงดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค และอาจส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการผลิตได้ง่าย
นายอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจี กล่าวว่า หากเศรษฐกิจปีหน้าไม่ดี การปรับค่าแรงจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ช้า ควรดูทิศทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกและ 2 ก่อน แล้วค่อยไปพิจารณาปรับช่วงไตรมาส 3-4 ของปีหน้า
ขณะที่ น.ส.นพวรรณ จุลกนิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางานจ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า หากปรับขึ้นค่าแรงจะดึงดูดต่างด้าวเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น แม้เป็นผลดีกับบางอุตสาหกรรมที่ขาดแคลน หรือประเภทงานที่คนไทยไม่ทำ แต่ปัญหาแรงงานอพยพผิดกฎหมาย รวมถึงปัญหาอื่นๆ จะตามมา
“การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะทำให้ต้องปรับค่าจ้างแรงงานระดับที่สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะกระทบต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการ และเอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่ากิจการขนาดใหญ่”น.ส.นพวรรณ ระบุ
นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มบริษัท เอเชีย โฮเต็ล กล่าวว่า ภาคท่องเที่ยวเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานอยู่แล้ว จึงต้องจ่ายค่าแรงสูงกว่าขั้นต่ำที่กำหนดไว้ หากปรับขึ้นก็จะมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานมากขึ้น
ด้าน นายชาลี ลอยสูง รักษาการประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ยืนยันว่า ถ้ารัฐบาลจริงใจก็ควรปรับขึ้นค่าแรงเท่ากันทั่วประเทศ เพราะไม่เชื่อว่าจะมีผลต่อต้นทุนมาก


