posttoday

แนะรัฐแก้ทัวร์ศูนย์เหรียญ สร้างตลาดใหม่ดันรายได้ท่องเที่ยว

05 กันยายน 2559

การแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญคือกระบวนการหนึ่งที่นำไปสู่เป้าหมายที่ยั่งยืน

โดย...ทีมข่าวโพสต์ทูเดย์

แนวโน้มรายได้จากการท่องเที่ยวปีนี้จะมีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวตามการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินล่าสุด มูลค่าสูงถึง 2.58 ล้านล้านบาท เทียบจากเป้าหมายเดิม 2.4 ล้านล้านบาท หรือไม่มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และที่ต้องสะสาง

ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ทางการท่องเที่ยวปีนี้มีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวตาม ททท. ประเมินล่าสุดที่ 2.58 ล้านล้านบาท เทียบจากเป้าหมายเดิม 2.4 ล้านล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกนักท่องเที่ยวต่างชาติมีอัตราการเติบโตทุกตลาด

ทั้งนี้ โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างประเทศจีน ภาพรวมการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย.นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 24.94 ล้านคน สร้างรายได้ 1.25 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% นักท่องเที่ยวคนไทย 111 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 6.29 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%

ปัจจัยความท้าทายที่เป็นส่วนหนึ่งในการชี้วัดรายได้ทางการท่องเที่ยวไทยช่วงไตรมาส 3 และ 4 ว่าจะเติบโตหรือไม่ คือเรื่องการแก้ปัญหาการจับกุมบริษัททัวร์นอมินีรายใหญ่ ที่ยังมีปัญหาซับซ้อนรอการแก้ไขและรอความชัดเจนถึงแนวทางรับมือจากภาครัฐ แต่เชื่อว่าจะมีร้านค้ารายอื่นๆ ที่เข้ามาให้บริการนักท่องเที่ยวจีนทดแทน ทำให้ตลาดไม่หยุดชะงัก สร้างรายได้ให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ททท.ต้องเร่งหานักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น เช่น กลุ่มที่เดินทางเข้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ควรวางแผนบริหารจัดการรองรับไว้ล่วงหน้า ก่อนที่ตลาดนี้จะมีกระแสความนิยมอย่างจริงจัง เพื่อเป็นอีกช่องทางสร้างรายได้การท่องเที่ยว

นอกจากนี้ รัฐบาลต้องลดการพึ่งพารายได้ทางการท่องเที่ยวที่มาจากตลาดจีนเพียงตลาดเดียว โดยต้องเร่งสร้างบรรยากาศทางการท่องเที่ยวภายในประเทศให้มีความคึกคัก กระตุ้นกำลังซื้อของคนไทย ช่วยสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

“ททท.ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาช่วยประเมินรายได้ทางการ เชื่อว่าน่าจะมีความน่าเชื่อถือเพียงพอ เพราะส่วนหนึ่งจัดเก็บจากการรูดบัตรเครดิตใช้จ่ายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว การเปิดเส้นทางและความถี่ของสายการบินโลว์คอสต์ โดยรัฐควรออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อช่วงปลายปี”ยุทธชัย กล่าว

ด้าน สุกัญญา จันทร์ชู อุปนายกฝ่ายการตลาดสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า ช่วงกลางปีหลังหากสถานการณ์ภายในประเทศมีความสงบ เชื่อว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะโตและสร้างรายได้ 2.58 ล้านล้านบาทตามที่คาดการณ์ไว้ เพราะครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโตที่ดี ในภาพรวมอัตราการเข้าพักเติบโตเฉลี่ยที่ 15-20% สวนทางกับราคาห้องพักที่ยังไม่สามารถขยับราคาขึ้นได้มากนัก เพราะผู้ประกอบการยังใช้เรื่องราคาเป็นกลยุทธ์หลักในการแข่งขันจูงใจนักท่องเที่ยว

ด้าน อัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยไลอ้อน แอร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีรัฐบาลกวาดล้างทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ก็กังวลเพราะเท่าที่ทราบมาอาจจะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวจีนหายไป 30% อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า ราคาคือการตลาด การทำธุรกิจจึงไม่สามารถไปบังคับได้ในทางปฏิบัติว่าใครต้องขายราคาขั้นต่ำเท่าไหร่

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมเปิดเส้นทางบินด้วยเที่ยวบินแบบมีตารางบินประจำ (สเกตดวล ไฟลต์) เส้นทางกรุงเทพฯ-กว่างโจว ภายในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ขณะที่ปัจจุบันมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) เส้นทางจากไทยไปจีน 9 เมือง โดยเส้นทางที่บินเข้าและออกจากไทยไปคือกรุงเทพฯ กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี

แม้ว่าจะมีทั้งคนเห็นด้วยและเห็นต่างกับเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยว 2.58 ล้านล้านบาท แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวต้องการเห็นคือ การสร้างความยั่งยืนให้กับรายได้ท่องเที่ยวในระยะยาว โดยการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง พร้อมกับสร้างตลาดใหม่ๆ ที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งการแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญคือกระบวนการหนึ่งที่นำไปสู่เป้าหมายที่ยั่งยืน แต่จะได้ตามเป้าหรือไม่ ต้องรอเวลาพิสูจน์