แอมเวย์เร่งปั้นยอดขายคนบิ๊กไซส์

แอมเวย์รุกหนักครึ่งปีหลัง บุกตลาดผลิตภัณฑ์ควบคุมน้ำหนักเร่งยอดขายจากคนอวบหวังทั้งปีโต 5-7%

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมของบริษัทในปีนี้จะสามารถเติบโตได้ 5-7% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากมีแผนการรุกตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งปี โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ยอดขายเติบโตได้ 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนกันของปีก่อน 

สำหรับช่วงกลางปีนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ในรูปแบบโปรแกรมควบคุมน้ำหนักบอดี้คีย์ บายนิวทริไลท์ ซึ่งทำต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ายอดขายของสินค้ากลุ่มนี้ในปีนี้จะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท หลังจากที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ไปเมื่อปลายปี 2558 ถือว่าได้การตอบรับที่น่าพอใจ

“จนเราทราบว่าโก๊ะตี๋-เจริญพร อ่อนละม้าย สนใจสมัครเข้าร่วมแข่งขันลดน้ำหนักด้วยโปรแกรมบอดี้คีย์นี้ด้วย เนื่องจากต้องการลดน้ำหนักแบบมีสุขภาพดี จึงได้เชิญโก๊ะตี๋มาเป็นตัวแทนผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จริงและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่มีปัญหาลดน้ำหนักยาก จึงเป็นที่มีของแคมเปญหลักในปีนี้ภายใต้แนวคิดจุดเปลี่ยน โดยการใช้งบ 50 ล้านบาท”

ทั้งนี้ ตลาดอาหารเสริมสุขภาพที่จำหน่ายในทุกช่องทางปีที่ผ่านมา มีมูลค่าประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 11% ซึ่งในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นสินค้าควบคุมน้ำหนัก 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 8%

อย่างไรก็ดี ในส่วนของบริษัทเองในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายรวม 1.65 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 1.สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม สัดส่วน 48% 2.สินค้าเครื่องกรองน้ำและเครื่องกรองอากาศ 17% 3.เครื่องสำอาง 16% และสินค้าอื่นๆ ประมาณ 19% ปัจจุบันบริษัทมีนักธุรกิจอิสระ 3.3 แสนราย และผู้ที่ซื้อสินค้าใช้ประจำกว่า 7 แสนราย รวมแล้วกว่า 1 ล้านราย ขณะที่ยอดขายต่อใบเสร็จในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมายังทรงตัวเท่ากับปีที่ผ่านมา

นายกิจธวัช กล่าวว่า ทั้งปีบริษัทใช้งบการตลาดรวมทั้งหมด 600 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งงบดังกล่าวรวมการท่องเที่ยว และการให้ค่าตอบแทนสมาชิกหรืออินเซ็นทีฟ ขณะเดียวกันจะให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่ทำผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นเนื่องจากเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจำนวนมากได้รวดเร็ว

ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจขายตรงปีนี้คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจมาผลักดันตลาด แม้ว่าภาครัฐจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ปัญหาสำคัญคือหนี้ครัวเรือนและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ซบเซาซึ่งหากจะเปรียบเทียบไปแล้วเศรษฐกิจไทยเวลานี้เหมือนตกท้องช้างยังต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัว