สหพัฒน์เกาะกระแสดิจิทัล ชูนวัตกรรมต่อยอดธุรกิจ

โดย...จะเรียม สำรวจ

จากแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวช้าๆ ส่งผลให้เครือสหพัฒนพิบูล เดินหน้าลุยขยายธุรกิจทันที โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้เครือสหพัฒน์มีแผนที่จะลงทุนใหญ่หลายโครงการ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ เริ่มต้นด้วยการเซ็นสัญญาระหว่างบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ กับ เจแปนนิส ราเมน ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดำเนินกิจการร้านราเม็ง

นอกจากนี้ ยังจะมีการเซ็นสัญญาระหว่างบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง กับบริษัท เมย์ฟลาวเวอร์ กรุ๊ป ประเทศมาเลเซีย เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการทัวร์ที่มีความหลากหลายและครบวงจร การเซ็นสัญญาระหว่างเครือสหพัฒน์กับบริษัท เวิลด์ เพื่อก่อตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อว่าบริษัท เวิลด์ สหแฟชัน และการเซ็นสัญญาระหว่างบริษัท ไทยอรุซ กับเอ็มเค กรุ๊ป เพื่อก่อตั้งบริษัท อรุซ เมียนมา ขยายธุรกิจทางด้านการออกแบบตกแต่งไปยังประเทศเมียนมา

สำหรับในด้านของการทำตลาดปีนี้ เครือสหพัฒน์ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก คือ หันมาให้ความสนใจในเทคโนโลยีมากขึ้นโดยเฉพาะมือถือ ด้วยเหตุนี้เครือสหพัฒน์จึงเล็งเห็นโอกาส หันมาพลิกโฉมรูปแบบการซื้อขายสู่ยุคดิจิทัล ผ่านการเปิดตัวร้านค้าเสมือนจริง และการเปิดตัวช็อปปิ้งผ่านอี-คอมเมิร์ซครั้งแรกในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 20 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิ.ย.-3 ก.ค.นี้ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาทดลองใช้บริการรูปแบบใหม่

บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า การที่บริษัทหันมารุกตลาดดิจิทัลมากขึ้น เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจดิจิทัลมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ถ้าเราช้าก็จะทำให้เสียโอกาส จึงถือโอกาสการจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 20 นี้ในการโปรโมท เพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมพร้อมทดลองใช้บริการใหม่ๆ ของเครือสหพัฒน์

ในส่วนของไฮไลต์นวัตกรรม สินค้า และบริการ ที่เครือสหพัฒน์เตรียมนำมาเปิดตัวในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 20 นี้ สามารถออกเป็น 4 หมวด ประกอบด้วย หมวดบริการ ซึ่งจะมีในส่วนของการแสดงร้านค้าเสมือนจริง 3D ด้วยการจำลองห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และพนักงานขายเสมือน เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปใช้บริการเหมือนอยู่ในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อดังกล่าว

พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดแสดงในส่วนของร้านค้าเสมือนจริง QR Code นำเสนอสินค้าผ่านหน้าจอทีวี หรือไลต์บอกซ์ โดยลูกค้าสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกน QR Code เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ ethailandbest.com และสั่งซื้อสินค้าได้ทันที นอกจากนี้ยังมีห้องลองเสื้อเสมือนจริง ด้วยการจำลองห้องเสื้อผ้าที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อและสวมใส่ได้ทันที เพียงยืนอยู่หน้าของจอภาพ และเพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามามีส่วนร่วม เครือสหพัฒน์ได้จัดกิจกรรมผ่าน th.gotchamail.com เพื่อเข้าไปเล่นเกม รับสิทธิพิเศษต่างๆ ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ขณะเดียวกันก็จะมีการนำรถเช่าบัดเจ็ตรุ่นใหม่จากหลากหลายแบรนด์ดังมาจัดแสดงภายในงานภายใต้คอนเซ็ปต์ บัดเจ็ต มินิ มอเตอร์โชว์

ด้านหมวดอาหาร ก็จะมีการเปิดตัว บีเอสซีคอร์นซอย น้ำนมถั่วเหลืองผสมเนื้อข้าวโพดรสชาติใหม่ สูตรหวานน้อย เช็ค สลัด จากคิวพี ซึ่งจะมีให้เลือกด้วยกัน 5 รสชาติ และขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ ใหม่ 3 ชนิด คือ ขนมปังแถวฟาร์มเฮ้าส์กลิ่นนมฮอกไกโด ขนมปังทาหน้าฟาร์มเฮ้าส์ครีมนมข้าวโพด และขนมไส้คัสตาร์ดทุเรียน เป็นต้น

สำหรับหมวดแต่งกาย ปีนี้จะมีการโชว์ในด้านของ I-Flex นวัตกรรมผ้ายืดที่มีคุณสมบัติพิเศษ และ COOL MODE ผลิตภัณฑ์ผ้าและเสื้อโปโลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการทดสอบคุณสมบัติจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ นอกจากนี้ในส่วนของแบรนด์ กี ลาโรช ก็จะมีการโชว์นวัตกรรมผ้าขาวทนขาวนาน เป็นต้น

ขณะที่หมวดเครื่องสำอาง จะมีการโชว์นวัตกรรมสกินแคร์ คลีนซิ่งออยล์ ลิปทรีตเมนต์ และมอยส์เจอไรเซอร์ที่สกัดจากน้ำมันรำข้าว และการเปิดตัวเคเอ็มเค เมกอัพเซต เป็นต้น

บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 1.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีผู้สนใจเข้าร่วมงาน 1 ล้านคน และมีเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท

แนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว บวกกับการเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เครือสหพัฒน์มั่นใจว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโต 5-6% แน่