posttoday

บินไทยไตรมาสแรกกำไร6พันล้าน

17 พฤษภาคม 2559

การบินไทยไตรมาสแรกได้ตามแผนปฏิรูประยะสอง รายได้ 5 หมื่นล้าน ไตรมาส 2 ช่วงธุรกิจเงียบเหงา

การบินไทยไตรมาสแรกได้ตามแผนปฏิรูประยะสอง รายได้ 5 หมื่นล้าน ไตรมาส 2 ช่วงธุรกิจเงียบเหงา

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกถือว่าเป็นไปตามแผนไฮไลต์ตัวเลขที่สำคัญ อาทิ รายได้ 5 หมื่นล้านบาท กำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนการเงิน (อี-บิตดา) อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท มีรายได้จากการดำเนินการ 7,200 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,000 ล้านบาท แต่รายได้ผู้โดยสารต่อคนต่อกิโลเมตร (Passenger Yield) ลดลงจาก 2.6 บาท/กม. ในช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 2.5 บาท/กม. หรือลดลง 3.8% ซึ่งเป็นผลจากค่าน้ำมันที่ลดลง ทำให้สายการบินมีการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น แต่ถือว่ายังลดลงน้อยกว่าการประมาณการของทั้งอุตสาหกรรมที่คาดทั้งปีนี้พาสเซนเจอร์ยิลด์จะลดลง 5%

"การดำเนินการถือว่ามาถูกทาง สรุปคือผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 5.62 ล้านคน เป็น 5.92 ล้านคน แต่จำนวนเครื่องบินลดลง ค่าใช้จ่ายลดลง ทำให้อัตราการขนส่งผู้โดยสารคาบินแฟกเตอร์เพิ่มจาก 75.4% ของไตรมาสแรกปีก่อนมาเป็น 77.5%" นายจรัมพร กล่าว

ทั้งนี้ ปี 2559 บริษัทเข้าสู่ระยะที่ 2 ของแผนปฏิรูปองค์กรคือ สร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขัน (Strangth Building) โดยมี 4 กลยุทธ์ ดังนี้ 1) การหารายได้ โดยเน้นที่แผนการเพิ่มรายได้ในทุกๆ ด้าน 2) การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในด้านการบริหารจัดการต้นทุน การบริหารจัดการกระแสเงินสดและโครงสร้างเงินทุน 3) การสร้างศักยภาพในด้านต่างๆ อาทิ การบริหารเครือข่ายเส้นทางบิน (Network Management & Optimization) การวางแผนฝูงบิน (Fleet Plan) การเพิ่มศักยภาพระบบบริหารรายได้ (Revenue Management Enhancement) และ 4) การสร้างความเป็นเลิศในการบริการลูกค้า ซึ่งหลายแผนงานได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจากปี 2558 เช่น การยกระดับการบริการชั้นธุรกิจ (Business Class Service Upgrade)

บริษัทมีจำนวนเครื่องบินที่ใช้ดำเนินงานในไตรมาสนี้ 95 ลำ น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 9 ลำ แต่จากการปรับเที่ยวบินและใช้เครื่องบินให้เหมาะสมกับความต้องการเดินทางการใช้ประโยชน์ของเครื่องบินได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น Aircraft Utilization เพิ่มขึ้นเป็น 11.5 ชั่วโมง (จาก 10.7 ชั่วโมง) ทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) ลดลงเพียง 1.8% โดยมีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 0.9% มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 77.5% สูงกว่า ปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 75.4% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 5.92 ล้านคน สูงกว่าปีก่อน 5.3%

สำหรับไตรมาส 2 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งปกติตัวเลขต่างๆ จะลดลง การทำงานจึงขึ้นอยู่กับว่าจะบริหารเรื่อง (Cabin Factor) ได้ดีแค่ไหน จะขยายจำนวนลูกค้าให้ทดแทนผลตอบแทนที่ลดลงได้ดีเพียงใด ทิศทางหลังจากนี้จะเน้นที่การขาย โดยบริหารจัดการในเชิงรุกให้มากขึ้นในทุกๆ มิติ และการบินไทยมีแผนที่จะทำโค้ดแชร์ร่วมกับสายการบินนกแอร์ให้มากขึ้น จากปัจจุบันทำร่วมกันเพียง 1 เมือง โดยจะขยายไป เช่น จ.น่าน พิษณุโลก