posttoday

เมเจอร์จัดทัพหนังไทยลั่น2ปีแชร์เท่าฮอลลีวู้ด

16 มีนาคม 2559

จากแนวโน้มของจำนวนโรงภาพยนตร์ในตลาดต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เล็งเห็นโอกาสในการผลิตภาพยนตร์ไทยเข้าฉายเพิ่มขึ้น

โดย...จะเรียม สำรวจ

จากแนวโน้มของจำนวนโรงภาพยนตร์ในตลาดต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เล็งเห็นโอกาสในการผลิตภาพยนตร์ไทยเข้าฉายเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคในตลาดต่างจังหวัดส่วนใหญ่นิยมดูภาพยนตร์ไทยมากกว่าภาพยนตร์จากต่างประเทศ โดยในปีนี้บริษัท เมเจอร์ฯ ประกาศแผนเชิงรุก ด้วยการมอบหมายหน้าที่ให้บริษัทในเครือผลิตภาพยนตร์ไทยเข้าฉายในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10-12 เรื่อง ภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 400-500 ล้านบาท

สำหรับบริษัทในเครือที่จะทำหน้าที่ผลิตภาพยนตร์ให้กับบริษัท เมเจอร์ฯ เพื่อเข้าฉายในปีนี้ ประกอบด้วย บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ ปีนี้จะผลิตภาพยนตร์เข้าฉายประมาณ 3 เรื่อง บริษัท ทาเลนต์ วัน จะผลิตภาพยนตร์เข้าฉายประมาณ 3 เรื่อง บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จะผลิตภาพยนตร์เข้าฉายประมาณ 3-4 เรื่อง บริษัท ฟิล์ม กูรู เบื้องต้นจะผลิตภาพยนตร์เข้าฉาย 1 เรื่อง และบริษัท รฤก โปรดั๊กชั่น จะผลิตภาพยนตร์เข้าฉายประมาณ 1-2 เรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 40-50 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัท เมเจอร์ฯ ยังมีแผนที่จะเปิดตัวบริษัท ซีเจ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จากประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้าไปร่วมถือหุ้นในการเปิดตัวธุรกิจผลิตภาพยนตร์ไทยอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ไทยในเครือบริษัท เมเจอร์ฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

วิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ฯ กล่าวว่า เมื่อก่อนประเทศไทยจะมีโรงภาพยนตร์เปิดใหม่ปีละประมาณ 50-60 โรงเท่านั้น แต่ปัจจุบันเปิดเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 100 โรง ซึ่งในส่วนของบริษัทเอง ปีนี้มีแผนที่จะเปิดโรงภาพยนตร์ใหม่ไม่ต่ำกว่า 100 โรงเช่นกัน ภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่บริษัทได้วางไว้ว่าภายในปี 2563 จะต้องเปิดโรงภาพยนตร์ให้ครบ 1,000 โรง แบ่งเป็น โรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการในประเทศไทย 900 โรง และกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี 100 โรง

ปัจจุบันบริษัท เมเจอร์ฯ มีโรงภาพยนตร์ในเครือรวมทั้งหมด 92 สาขา รวม 609 โรง 140,794 ที่นั่ง ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นสาขาในเขตกรุงเทพฯ 26 สาขา 256 โรง ที่เหลือเป็นตลาดต่างจังหวัดรวม 38 จังหวัด 64 สาขา 341 โรง และต่างประเทศ 2 สาขา ที่ประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว รวม 12 โรง

ทั้งนี้ จากจำนวนโรงภาพยนตร์ที่จะเพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้บริษัทต้องหันมาให้ความสำคัญกับการผลิตภาพยนตร์ไทยเข้าฉายมากขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในตลาดต่างจังหวัดแล้ว ในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ซึ่งประกอบด้วย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และ เมียนมา ก็มีความชื่นชอบในภาพยนตร์ไทยเป็นอย่างมากโดยเฉพาะลาว เนื่องจากภาพยนตร์ไทยที่นำเข้าไปฉายผู้บริโภคลาวสามารถชมได้ทันที โดยไม่มีการแปลภาษา เนื่องจากภาษาไทยและภาษาลาวมีความใกล้เคียงกัน

นอกจากจะนำภาพยนตร์ไทยเข้าไปฉายในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี บริษัท เมเจอร์ฯ ยังมีแผนจะส่งออกภาพยนตร์ไทยไปทำตลาดในกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียน หลังจากก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับเรื่อง "รุ่นพี่" ด้วยการนำภาพยนตร์เข้าไปทำตลาดใน 11 ประเทศ ประกอบด้วย สิงคโปร์ ไต้หวัน บรูไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ลาว เวียดนาม กัมพูชา และฮ่องกง

วิชา กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาและผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้มีการเติบโต และมีสัดส่วนการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ให้มากถึง 50% ในอีก 2-3 ปีนับจากนี้ จากปัจจุบันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 30% คาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 35-40% จากมูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ประมาณ 7,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนที่จะผลักดันให้ภาพยนตร์ไทยสามารถส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ ด้วยการพัฒนาและผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยควบคู่ไปกับการขยายสาขาโรงภาพยนตร์ เพื่อรองรับจำนวนภาพยนตร์ไทยที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

หลังจากเดินหน้าขยายโรงภาพยนตร์และผลิตภาพยนตร์ไทยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์มากขึ้น คาดว่าสิ้นปี 2559 จะมีรายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่กว่า 9,000 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ที่มีจากธุรกิจภาพยนตร์ทั้งไทยและต่างประเทศที่นำเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์และผลิตภาพยนตร์เข้าฉายเองประมาณ 5,000 ล้านบาท