posttoday

'ล็อกซเล่ย์'ลุย3ธุรกิจฟื้นรายได้

25 พฤศจิกายน 2558

ไอที-พลังงาน-โครงการภาครัฐ ฟื้นยอดล็อกซเล่ย์ปีหน้าโต 15% คาดปี 2561 แตะ 2 หมื่นล้าน

ไอที-พลังงาน-โครงการภาครัฐ ฟื้นยอดล็อกซเล่ย์ปีหน้าโต 15% คาดปี 2561 แตะ 2 หมื่นล้าน

นายสุรพันธ์ ภาษิตนิรันดร์ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เปิดเผยว่า จากโครงการภาครัฐที่ชะลอตัวและสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ ฟื้นตัวส่งผลให้ปีนี้คาดว่ารายได้รวมของบริษัทจะทรงตัวหรือต่ำกว่าเป้าหมาย เล็กน้อยอยู่ที่ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 15% จากโครงการภาครัฐที่เร่งทยอยดำเนินการ

โดยในปีนี้บริษัทมีงานในมือจากโครงการภาครัฐ 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 3,000 ล้านบาท เหลืออีก 6,000 ล้านบาท จะรับรู้ในปีหน้า และคาดว่าปีหน้าจะมีงานจากโครงการภาครัฐไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะชนะประมูล 80% หรือคิดเป็นรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับทิศทางในปีหน้าตั้งเป้าการเติบโตมาจากโครงการภาครัฐ ธุรกิจโทรคมนาคมหรือไอที และธุรกิจพลังงานที่ปีหน้าคาดว่าจะแยกเป็นกลุ่มธุรกิจที่ 5 ของบริษัท จากปัจจุบันที่ธุรกิจของล็อกซเล่ย์มาจาก โครงการรัฐสัดส่วนรายได้ 60% กลุ่มธุรกิจเทรดดิ้ง 30% กลุ่มธุรกิจบริการ 10% ขณะที่ธุรกิจพลังงานในปีนี้ยังกระจายอยู่ใน 3 ธุรกิจหลักดังกล่าว

"บริษัทจะเสนอแผนธุรกิจในปีหน้า เพื่อแยกธุรกิจพลังงานออกมาเป็นอีก 1 ขาธุรกิจ เนื่องจากจะเกิดความชัดเจนในหลายโครงการที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการประมูล เช่น โครงการโรงไฟฟ้าจากขยะของ กทม. นิคมอุตสาหกรรมอมตะ และตลาดไท เป็นต้น"

นอกจากนี้ จากแนวโน้มที่ดีขึ้นดังกล่าว ทำให้คาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2561 โดยนอกจากไอที พลังงาน โครงการภาครัฐแล้ว ธุรกิจเทรดดิ้งและบริการก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ขณะเดียวกัน ล็อกซเล่ย์ยังเร่งเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจะใช้กลุ่มธุรกิจเทรดดิ้งที่ปัจจุบันขยายตลาดในหลายประเทศในอาเซียนเป็นตัวนำ จากนั้นจะขยายธุรกิจออโตโมทีฟ หรือด้านยานยนต์ตามไป เริ่มจากน้ำมันเครื่องคาสตรอล ซึ่งล็อกซ์เล่ย์ถือหุ้น 40% ได้ขยายตลาดในเมียนมาแล้ว

ทั้งนี้ ในกลุ่มของออโตโมทีฟจะใช้แบรนด์คาสตรอลเป็นเรือธง และจะมองการขยายธุรกิจในกลุ่มนี้ให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น บริษัท พาร์ทโซน (ประเทศไทย) ที่ดำเนินธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ ซึ่งล่าสุดได้บริษัท เฟดเดอรัล โมกูล มอเตอร์ พาร์ท จากสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมถือหุ้นกว่า 50% ส่งผลให้สามารถขยายธุรกิจได้มากขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ

"เฟอเดอรัลฯ มีแบรนด์สินค้าที่เป็นที่รู้จักอย่าง เฟอโรโด แชมป์เปี้ยน และทำให้บริษัทมีเงินทุนสำหรับขยายธุรกิจเพิ่ม จึงตั้งเป้าเพิ่มรายได้ของพาร์ทโซนจาก  240 ล้านบาท ในปีนี้เป็นกว่า 700 ล้านบาท ใน 5 ปีจากนี้ และจะให้ไทยเป็นศูนย์กลางทำธุรกิจในอาเซียนด้วย