posttoday

สปาคึกไตรมาส4โต10-20%

12 ตุลาคม 2558

สยามเวลเนสกรุ๊ป ชี้ธุรกิจสปาไตรมาส 4 โต 10-20% ตามที่ท่องเที่ยว เร่งขยายสาขาเพิ่ม

สยามเวลเนสกรุ๊ป ชี้ธุรกิจสปาไตรมาส 4 โต 10-20% ตามที่ท่องเที่ยว เร่งขยายสาขาเพิ่ม

นายประเสริฐ จิราวรรณสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจสปา เปิดเผยว่า ธุรกิจสปาไตรมาส 4 มีแนวโน้มเติบโตดีสอดคล้องกับแนวโน้มการท่องเที่ยวที่เติบโต โดยสัญญาณการเติบโตเริ่มมาตั้งแต่ช่วงวันชาติจีนต้นเดือน ต.ค. มีนักท่องเที่ยวจีนมาใช้บริการหนาแน่น ขณะที่ทั้งไตรมาส 4 คาดว่าทั้งอุตสาหกรรมสปารายได้น่าจะเติบโตได้ 10-20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของบริษัทตั้งเป้าหมายเติบโต 30% มากกว่าตลาด เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่เพิ่ม ทำให้มีช่องทางรองรับลูกค้ามากขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสปาทั้งหมด 19 สาขา แบ่งเป็น ระรินจินดา เวลเนส สปา ซึ่งเป็นแบรนด์สปา 5 ดาว จำนวน 3 สาขา เล็ทส์ รีแลกซ์ สปา แบรนด์ 4 ดาว จำนวน 12 สาขา เเละบ้านสวน มาสสาจ สปา ระดับ 3 ดาว จำนวน 4 สาขา ในปลายเดือนนี้จะเปิดสปาเพิ่มอีก 1 สาขา และในเดือน ธ.ค. จะเพิ่มอีก 1 สาขา ส่งผลให้ถึงสิ้นปีนี้จะมีสปาให้บริการ 21 สาขา ส่วนในปีหน้าตั้งเป้าหมายขยายสปาเพิ่มอีก 6-10 สาขา เน้นหนักไปที่แบรนด์เล็ทส์ รีแลกซ์ สปา 4 ดาว มากที่สุด

“แบรนด์ระรินจินดา เวลเนส สปา จะเน้นขยายสาขาในโรงแรมระดับ 5 ดาว แบรนด์เล็ทส์ รีแลกซ์ สปา จะขยายตามแนวรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ หากเป็นต่างจังหวัดก็จะเปิดเป็นร้านเดี่ยวๆ ขณะที่แบรนด์บ้านสวน มาสสาจ จะขยายอยู่รอบนอกของกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่อยู่ตามชานเมืองจะได้ไม่ต้องการขับรถเข้ามาใช้บริการในเมือง”นายประเสริฐ กล่าว

สำหรับสัดส่วนลูกค้าของบริษัท 70-80% เป็นต่างชาติอีก 20-30% เป็นคนไทย ดังนั้น แม้เศรษฐกิจไทยจะยังมีปัญหาชะลอตัว จึงไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดยแบรนด์ที่มีสัดส่วนลูกค้าคนไทยมาก เช่น บ้านสวน มาสสาจ มีผู้ใช้บริการคนไทย 90% แต่ก็ยังมียอดใช้บริการปกติน่าจะเป็นผลมาจากแนวโน้มคนไทยสนใจเรื่องรักษาสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับเมื่อเกิดความเครียดก็นิยมจะมานวดเพื่อผ่อนคลาย ดังนั้น แม้จะมีปัญหาเศรษฐกิจก็ไม่ได้ตัดการใช้จ่ายด้านนี้ไป

“ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้กว่า 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวมประมาณ 340 ล้านบาท โดยลูกค้าหลักที่เข้ามาใช้บริการ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ส่วนทิศทางธุรกิจสปาในปีหน้าก็น่าจะยังเติบโตได้ดีอยู่ ตามการใส่ใจเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายรัฐที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวใช้บริการด้านสุขภาพมากขึ้น”นายประเสริฐ กล่าว