เที่ยวบินสุวรรณภูมิโต 30% หลังปลดธงแดง

“สุวรรณภูมิ”คึกคักหลังไทยปลดธงแดง ทัวร์จีนแห่จองสล็อตช่วงออฟพีกเพิ่มขึ้น 30% เร่งเคลียร์ปัญหาสล็อตแน่นดอนเมือง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า หลังจากประเทศไทยได้รับการปลดธงแดงจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีความคึกคักมากขึ้น โดยช่วงเวลาที่ไม่คับคั่ง(ออฟพีก) 02.00-05.00 น. เริ่มมีสายการบินขอรับจัดสรรตารางเวลาการบิน (สล็อต) เพื่อใช้ปฏิบัติการบินเข้าออกสนามบินในช่วงเวลานี้มากขึ้น จากเดิมที่ช่วงเวลาดังกล่าวจะขายไม่ออก ไม่ค่อยมีสายการบินไหนมาขอบินเข้าออก

อย่างไรก็ตามสำหรับสายการบินที่ขอบินช่วงเวลานี้มากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสายการบินที่เดินทางมาจากประเทศจีน ทำให้ปัจจุบันภาพรวมผู้โดยสารเติบโตขึ้น 12.7% โดยระหว่างประเทศเติบโตกว่า 20% บางวันสูงถึง 30% และภายในประเทศเติบโต 5% อย่างไรก็ตามสำหรับปีงบประมาณ 60 (ต.ค.59-30 ก.ย.60)พบว่า จำนวนผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการ 6ท่าอากาศยานของ ทอท. เติบโต 7.7% รองรับผู้โดยสาร 129 ล้านคน

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าในช่วงที่ไทยโดนธงแดง และเจอปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้อัตราส่วนการบรรทุก (โหลดแฟกเตอร์) น้อยลง จนสายการบินก็ยอมแพ้ยกเลิกสล็อตไป แต่ยังโชคดีที่มีอินเดีย และรัสเซีย เข้ามาแทนที่สล็อตเหล่านี้ ทำให้ ทอท. ผ่านวิกฤติจุดนี้ไปได้ และมีความแข็งแรงมากขึ้น โดยปัจจุบันเมื่อมีการปลดธงแดง และไม่มีปัญหาหาทัวร์ศูนย์เหรียญสายการบินที่เคยยกเลิกสล็อตไปก็อยากกลับมาบินเหมือนเดิม แต่ไม่สามารถกลับมาได้แล้ว เพราะมีสายการบินอื่นมาลงแทนแล้ว และสล็อตช่วงเวลาคับคั่ง(พีก)ก็เต็ม ทำให้ต้องกลับมาในช่วงออฟพีกแทน โดยผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ที่ประมาณ 1.8 แสนคนต่อวัน

นายนิตินัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ทอท.พยายามแก้ปัญหา และบริหารจัดการสนามบินที่มีสล็อตหนาแน่น โดยเฉพาะสนามบินดอนเมืองเวลานี้สล็อตเต็มทุกช่วงเวลา โดยใช้ระบบ Swing Gate เพื่อสลับหลุมจอดที่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ มาให้บริการเที่ยวบินขาออกระหว่างประเทศในช่วงเวลาคับคั่ง(พีก) พร้อมกันนี้ได้ปรับจากหลุมจอดที่เชื่อมต่อกับประตูทางออกอาคารผู้โดยสาร (Contact Gate) เป็น Bus Gate นั่งรถไปขึ้นเครื่องบินเพิ่มมากขึ้น

นายศักดิ์ชัย อรุณรักถาวร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง สายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า หลังจากประเทศไทยได้รับการปลดธงแดงจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO) แล้ว สายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline) ในท่าอากาศยานดอนเมืองก็มีแนวโน้มจะบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นสายการบินคงใช้วิธีขอเปลี่ยนเส้นทางบินจากภายในประเทศเป็นระหว่างประเทศ โดยอาศัยตารางบินเดิมของท่าอากาศยานดอนเมือง เพราะปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมืองมีสภาพค่อนข้างหนาแน่นและขอตารางบินใหม่ได้ยาก

สำหรับสายการบินที่สนใจจะเปลี่ยนเส้นทางน่าจะเป็นไทยไลอ้อนแอร์, ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์และนกสกู๊ต

ด้านเส้นทางระหว่างประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลียซึ่งที่ผ่านมาติดปัญหาธงแดงโดยการเปลี่ยนเส้นทางก็ต้องเปลี่ยนขนาดเครื่องบินจาก 180-200 ที่นั่ง เป็นมากกว่า 300 ที่นั่งด้วย จึงจะคุ้มค่า

ทั้งนี้ ปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 70% และระหว่างประเทศ 30% ส่วนอัตราการขยายตัวของผู้โดยสารอยู่ที่20% ต่อปี